กลับมาอีกครั้งกับกิจกรรมดีๆจากทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กับกิจกรรมสุดมันส์ เสริมทักษะการขับขี่แบบออฟโรด บนสนามออฟโรดระดับประเทศ โดยใช้รถ Toyota Hilux revo รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้งหมด
โดยแบ่งออกเป็น 3 สเตชั่น เริ่มตั้งแต่สเตชั่นฝึกควบคุมรถบนเส้นทางออฟโรดที่หลากหลาย มาต่อด้วยเส้นทางฝุ่นแบบแรลลี่ที่ใช้ความเร็วสูง และจบด้วยเส้นทางสุดโหดในสนามแข่งออฟโรด 10 เซียนประจันบาน
เรามาเริ่มกันที่สถานีแรกกันก่อนเลยดีกว่ากับ สนามจำลองเส้นทางออฟโรด ซึ่งมีอยู่หลายสเตชั่นให้เราได้ทดลองกัน โดยสถานีนี้เราจะใช้รถ Toyota Hilux Revo Rocco รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้งหมดมาให้ทดลองกัน เมื่อพร้อมแล้วปรับโหมดให้เป็น 4L โดยแค่เข้าเกียร์ N เหยียบเบรก และบิดโหมดขับเคลื่อนไปที่ 4L แค่นี้รถก็พร้อมลุยทุกเส้นทางแล้ว
โดยเราจะเปิดด้วยเส้นทางที่เป็นหลุมสลับ สถานีนี้จะเห็นถึงสมรรถนะของการให้ตัวของระบบช่วงล่าง ช่วงยืดและยุบ พร้อมความนุ่มนวลของช่วงล่าง และ Differential Lock ที่เฟืองท้าย ซึ่ง Revo Rocco ของเราขับผ่านไปได้แบบเนียนๆปล่อย walking speed ไหลไปเรื่อยๆคุมพวงมาลัยกับเบรกให้ดีๆ แค่นี้ก็ผ่านได้แบบสบายๆ
หลุดออกมาก็พบกับบ่อโคลน และทางโคลน ซึ่งมีน้ำลึกพอสมควร เรามาลองแรงบิดของเครื่องยนต์ดีเซล 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร Commonrail Turbocharged พร้อม Intercooler กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift กันดีกว่าว่ามันจะแน่ขนาดไหน
เดินคันเร่งเบาๆพุ่งลงไปในบ่อโคลน เติมคันเร่งเล็กน้อยก็หลุดออกจากบ่อโคลนได้อย่างไม่ยากเย็น ต้องบอกว่ารถ 4×4 สมัยนี้มีเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ต่างๆอัดแน่นมาให้ ทำให้การขับบนเส้นทางออฟโรดง่ายขึ้นเยอะครับ
มาต่อกันที่เส้นทางที่เป็นเนินลูกระนาดซุง ต่อด้วยทางหิน และดิน ทดสอบระบบช่วงล่างของเจ้า Revo Rocco คันนี้ที่ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และด้านหลังเป็นเหล็กกันโคลง/แบบแหนบซ้อน ได้ดีเลยทีเดียว
ระบบช่วงล่างสามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวของถนนได้ดี ทำให้เราขับขี่ได้สบายและไม่เหนื่อยล้ามากนัก ติดกันเป็นการขับบนทางลาดเอียงประมาณ 20-35 องศา แบบสลาลอม ทำให้เราได้รู้ว่าการกระจายน้ำหนัก การบาลานซ์ ความสมดุล ของเจ้า Revo Rocco คันนี้ทำได้ดีครับ
ด้านหน้าของเราตอนนี้คือเนินที่มีความลาดชันประมาณ 45 องศาเลยทีเดียว แรงบิด 500 นิวตันเมตร ของเครื่องยนต์ลูกนี้ของ Revo Rocco ในรอบต่ำทำให้เราพารถขึ้นไปได้แบบง่ายดาย แถมแอบหยุดกลางเนินแล้วเดินคันเร่งต่อก็ยังสบาย ขึ้นแล้วก็ต้องลงมาลองระบบเบรกกันหน่อยเอาอยู่สบายมาก ลองระบบลงทางลาดชันที่ให้มาก็ใช้งานได้ดี
สุดท้ายมาลองลุยน้ำกัน วิ่งลงไปในลำธารกันที่มีความยาวประมาณ 50 เมตร ระดับความลึก 50-80 เซนติเมตร ด้วยความสูงของตัวรถ และระบบป้องกันการรั่วซึม สามารถขับผ่านได้ไปง่ายๆครับ
STATION 2 DIRT TRACK
ย้ายมาขับบนทาง Dirt Track กันบ้างกับ TOYOTA 4X4 OFF ROAD TRAINING โดยเราจะเปลี่ยนจาก revo rocco ขยับขึ้นไปเป็น Toyota Hilux Revo GR Sport ซึ่งเจ้าคันนี้มีการอัพเกรดจากรุ่นปกติหลายจุด ในส่วนของขนาดตัวถังกว้างขึ้น 120 มิลลิเมตร / สูงขึ้น 15 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้นสูงขึ้น 37 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อหน้า กว้างขึ้น 140 มิลลิเมตร ฐานล้อหลัง กว้างขึ้น 155 มิลลิเมตร และองศาด้านหน้ารถ เชิดขึ้น 1 องศา สูงขึ้น 20 มิลลิเมตร
เส้นทางฐานนี้เป็นเส้นทางฝุ่น เป็นเส้นทางแข่งแรลลี่ ครอส แบบใช้ความเร็วค่อนข้างสูง ซึ่งมันเหมาะกับเจ้า รีโว่ GR Sport คันนี้มากครับเพราะเจ้าคันนี้มีพละกำลังเพิ่มขึ้น มีการอัพเกรดพละกำลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 Turbo จาก 204 เป็น 224 แรงม้า แรงบิดจาก 500 เป็น 550 นิวตันเมตร รองรับมาตรฐานเป็น EURO5 แล้วเพิ่มระบบ DPF : Diesel Particulate Filter Regeneration ทำความสะอาดคราบเขม่า เปลี่ยน กล่อง ECU ใหม่
พร้อมจูน Software โปรแกรมเครื่องยนต์ และ เกียร์ ใหม่ เพิ่มแรงดัน Commonrail จาก 265 เป็น 275 Mpa. ขับมันส์มากครับ กดติดเท้าดีจัง และด้วยการโช็คอัพหน้า/หลัง เป็นแบบ Monotube จัดวางตำแหน่งใหม่ ปรับจูน คอยล์สปริง ด้านหน้าใหม่ เพิ่ม อาร์มรับแรงสั่นสะเทือน เปลี่ยน เหล็กกันโคลงหน้า ขยายเส้นผ่านศูนย์กลางให้ใหญ่ขึ้น เปลี่ยน คอม้า และ ปีกนกล่าง ให้หนาขึ้น แข็งแรงมากขึ้น เพิ่มความแข็งแรงแนวเชื่อมที่ Frame Chassis
บวกกับล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว เปลี่ยนยางจาก HT เป็น AT All-Terrain BF Goodrich มันช่วยเสริมให้เจ้ารถคันนี้ควบคุมง่าย วิ่งรูดผ่านทางฝุ่น หลุม บ่อ ได้แบบชิลล์ๆ ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี การเข้าโค้งระบบช่วยต่างๆช่วยดึงรถให้รถอยู่ในเลนที่ต้องการ แม้ในบางจังหวะอาจจะมีสไลด์นิดหน่อย เพราะด้วยความเร็วที่ยัดเข้าโค้งมา แต่ก็ควบคุมง่ายสบายหายห่วง ดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่เปลี่ยนจาก 16 เป็น 17 นิ้ว สามารถหยุดรถได้ดังใจ ขับดี และสนุกมากครับกับทางฝุ่นแบบนี้
STATION 3 OFF ROAD TRAIL
สุดท้ายถือว่าใจถึง และทางโหดมาก เพราะเป็นเส้นทางการแข่งขันออฟโรดของรายการแข่งระดับประเทศอย่าง 10 เซียนประจันบาน ซึ่งหลายท่านที่ชื่นชอบการแข่งรถออฟโรดคงทราบกันดีอยู่แล้วเรื่องเส้นทางที่โหดแบบสุดๆ แต่ทางโตโยต้าได้เลือกมาช่วงหนึ่งของไลน์สนามทั้งหมดให้เราได้ลองสัมผัสว่ามันขับยากขนาดไหน
และต่อขับอย่างไรถึงจะขึ้นไปได้ โดยกลับไปใช้ revo rocco 4×4 คันเดิมแถมเป็นยางเดิมติดรถซะด้วย เราไม่รอช้ากระโดดขึ้นรถพร้อมลุย ทางข้างหน้าคือทางขึ้นชันเกิน 45 องศา แถมเป็นทางฝุ่น พร้อมร่องลึก และหิน กดคันเร่งขึ้นไปรอบแรกติดกลางเนินจ้า ต้องถอยลง เพราะด้วยความกระเด้งกระดอนและผมไม่ได้ระวังจึงทำให้เท้าหลุดออกจากคันเร่ง รถเลยหมดแรงและเข้าไปติดในร่อง
รอบสองถอยหลังเทคตัวไกลขึ้นผ่านร่องแรกมาได้แต่ดันไปติดร่องลึกด้านบนจนต้องถอยลงอีกรอบ ก่อนที่จะเทคตัวกดคันเร่งส่งขึ้นอีกรอบ และหมุนพวงมาลัยบิดซ้าย-ขวา ช่วยอีกแรง จนขึ้นได้สำเร็จ บอกเลยว่ากว่าจะขึ้นมาได้เล่นเอาใจหายเหมือนกัน รถมีแรงบิดที่ดี พละกำลังดี เกียร์ และระบบช่วยที่ดีบวกกับทักษะที่ผู้ฝึกสอนคอยบอก ทำให้พาเราผ่านอุปสรรคไปได้
ต้องบอกเลยครับว่าการได้มีโอกาศมาเรียนทักษะการขับขี่ TOYOTA 4X4 OFF ROAD TRAINING ทำให้เราได้เรียนรู้การใช้คันเร่ง การหมุนพวงมาลัย การใช้เกียร์ และได้รู้ว่าระบบช่วยต่างๆของรถที่ให้เรามานั้นมันช่วยเราได้อย่างไร สุดท้ายได้ประสบการณ์การขับขี่สามารถนำไปปรับใช้ในสถานการณ์ต่างๆที่เราต้องพบเจอในชีวิตประจำวันได้ บอกเลยว่าขับรถเป็น กับขับรถได้ มันต่างกันจริงๆครับ ไม่เชื่อไปลองเรียนดูได้