ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ชูความอเนกประสงค์ของ ซูซูกิ แครี่ ตอกย้ำบทบาทผู้นำฟู้ดทรัคที่มีส่วนสำคัญในการสร้างโอกาสและร่วมขับเคลื่อนธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิด-19 ในรูปแบบที่หลากหลาย สร้างอัตราเติบโตให้กับธุรกิจด้านการขนส่ง สอดรับการขยายตัวของธุรกิจออนไลน์ มั่นใจสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน ตั้งเป้าเก็บเกี่ยวยอดขาย 4,200 คันในปีนี้
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการผลักดัน ซูซูกิ แครี่ รถกระบะบรรทุกอเนกประสงค์ ลงสู่ตลาดนับตั้งแต่กลางปี 2549 ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ตอกย้ำความอเนกประสงค์ด้วยสมรรถนะการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งยังสร้างกระแส ฟู้ดทรัค ฟีเวอร์ และมีส่วนสำคัญในการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับเจ้าของธุรกิจในทุกระดับ ด้วยความโดดเด่นในเรื่องของความอเนกประสงค์ สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้ซูซูกิครองตลาดในเซ็กเมนต์ดังกล่าว เก็บเกี่ยวยอดขายได้มากกว่า 50,000 คัน หลังเปิดตัวเจนเนอเรชั่นแรกและทำตลาดในประเทศไทยยาวนานกว่า 13 ปี และเดินหน้าสานต่อความสำเร็จด้วยเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2562 ยกระดับด้วยรูปโฉมที่ทันสมัย รวมถึงสมรรถนะการใช้งานที่ครบครันยิ่งขึ้น
ซูซูกิ แครี่ เป็นหนึ่งในกำลังขับเคลื่อนที่ผลักดันให้ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) มียอดขายที่เติบโตขึ้นเป็นลำดับ แม้ในช่วงวิกฤติที่สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ทว่า ซูซูกิ แครี่ ยังสามารถสร้างอัตราเติบโตสวนทิศทางตลาด ด้วยยอดขาย 2,433 คัน ในปี 2563 ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า รวมถึงในปีที่ผ่านมาสามารถขยับยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2,886 คัน เติบโตถึง 18.62% จากปีก่อนหน้า ตอกย้ำถึงความนิยมและความสำคัญของ ซูซูกิ แครี่ ในตลาดประเทศไทย
โดยมากกว่า 40% ของลูกค้าซูซูกิ แครี่ จะนำไปปรับโฉมเพื่อรองรับธุรกิจในบทบาทของ “ฟู้ดทรัค” ซึ่งมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 20% ก่อนที่การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส 2019 จะสร้างผลกระทบโดยตรงต่อการใช้ชีวิต ไล่เรียงไปจนถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจ ตอกย้ำให้เห็นถึงความอเนกประสงค์และความสำคัญของซูซูกิ แครี่ ที่เป็นมากกว่ายานพาหนะ ทว่ายังเป็นกำลังสำคัญในการสร้างโอกาสในช่วงเวลาวิกฤติ ผลักดันให้หลากหลายธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ภายใต้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ที่มีปัจจัยด้านความปลอดภัยเป็นตัวแปรสำคัญ
นอกจากจะมีส่วนสำคัญในการสร้างงานสร้างอาชีพภายใต้แนวคิด “เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” ซูซูกิ แครี่ ยังร่วมขับเคลื่อนสังคม คลายวิกฤติ ภายใต้บทบาทของ รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย” (SUZUKI CARRY Biosafety Mobile Unit) หรือ รถตรวจโควิด รวมถึงรถส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา เพื่อแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์และช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโคโรน่า ไวรัส 2019 ซึ่งเป็นสิ่งที่ ซูซูกิ พร้อมให้การสนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจ ภายใต้โครงการ “SUZUKI Cause We Care”
ซูซูกิพร้อมตอกย้ำความอเนกประสงค์ของ ซูซูกิ แครี่ ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหาพาหนะที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการทั้งในเรื่องของ สมรรถนะการใช้งาน รวมถึงงานบริการหลังการขาย ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เลือกใช้ ซูซูกิ แครี่ เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจในทุกระดับ ทั้งในบทบาทของการขนส่ง หรือแปลงโฉมเป็นร้านค้าเคลื่อนที่รองรับธุรกิจในรูปแบบที่แตกต่างกันไป
โดยคาดการณ์ว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจจะเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังผ่านพ้นช่วงวิกฤติในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ ซูซูกิ แครี่ ยังคงได้รับความนิยมและเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะธุรกิจด้านการขนส่งที่ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจขายของออนไลน์ ที่สร้างการขยายตัวของธุรกิจด้านการขนส่งอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา และตั้งเป้าที่จะเก็บเกี่ยวยอดขาย 4,200 คันในปีนี้ เติบโตจากปีก่อนหน้า 45%
สำหรับ ซูซูกิ แครี่ ตอบโจทย์การใช้งานด้วยมิติตัวรถที่มีความยาว 4,195 มม. ความกว้าง 1,765 มม. และความสูง 1,910 มม. มาพร้อมความกว้างและความยาวของพื้นที่บรรทุกอยู่ที่ 1,670 มม. และ 2,450 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 160 มม. เติมเต็มสมรรถนะการใช้งานด้วยกระบะบรรทุกแบบเรียบผลิตจากแผ่นเหล็กเสริมกัลวาไนซ์ ป้องกันสนิมและการสึกกร่อน สามารถเปิดได้ทั้ง 3 ด้านช่วยให้การขนถ่ายสัมภาระทำได้สะดวกยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบด้วยน้ำหนักบรรทุกสูงสุดถึง 945 กิโลกรัม
ตอบสนองการใช้งานภายใต้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน K15B ความจุ 1,462 ซี.ซี. ขนาดปากกระบอกสูบ 74.0 มมช่วงชัก 85.0 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10:1 ให้พละกำลังสูงสุด 97 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 173 กรัม/กิโลเมตร รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด E20 เพิ่มความมั่นใจให้กับการขับขี่ด้วยระบบเบรก ABS ทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบ Engine Drag Control รักษาความเร็วของล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุลกันป้องกันการลื่นไถล ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังแบบคานแข็งพร้อมแหนบ 5 ชั้นวางเหนือเพลา ล้อและยางขนาด 165/80R13 ใช้งานได้อย่างคล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.4 เมตร ตอบโจทย์การใช้งานในพื้นที่จำกัดได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องโดยสารมาในโทนสีเทาดำ ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มพื้นที่และช่องเก็บของ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบครัน เบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับสไลด์ได้ พวงมาลัยไฟฟ้าช่วยลดแรงที่ใช้ในการหมุนพวงมาลัย ปรับระดับความหนักตามความเร็วของรถให้เหมาะสมกับการบังคับพวงมาลัย สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับการขับขี่
สำหรับการต่อยอดไอเดียการใช้รถในเชิงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สนใจต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง เรามีที่ปรึกษาการขายพร้อมบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบและตกแต่ง SUZUKI CARRY นอกจากนั้น ซูซูกิยังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำเข้ามาร่วมเป็นเอ็กคลูซีฟลีสซิ่งพร้อมทีมงานคอยให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดูแลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม-3 เมษายน 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี