นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 เป็นอีกปีที่พีทีจีมุ่งหวังให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสดใหม่อีกครั้ง โดยเราวางแผนว่าปีนี้จะเชื่อมโยงผู้คนในทุกเจเนอเรชั่นเข้าด้วยกันผ่านไอเดียแคมเปญสื่อการสื่อสารการตลาดที่ชื่อว่า “สดใหม่ไปกับคุณ” และ “หนีเที่ยวให้ชีวิตสดใหม่” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ได้ค้นหาและลองทำอะไรใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเคย เปลี่ยนมุมมองความคิดใหม่เพื่อเติมเต็มความสุขให้ชีวิตได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้วยบรรยากาศการท่องเที่ยวที่ซบเซาในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เรายังมุ่งหวังว่าแคมเปญทั้งสองจะสามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิดผ่านกิจกรรมการกระตุ้นการออกมาท่องเที่ยวหรือจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าตลอดทั้งปีนี้ พีทีจีพร้อมสร้างสรรค์กิจกรรมและความพิเศษมากมายภายใต้แคมเปญ “สดใหม่ไปกับคุณ” และ “หนีเที่ยวให้ชีวิตสดใหม่” โดยมุ่งตอกย้ำว่าเราพร้อมยืนเคียงข้างคนไทยในทุกช่วงเวลาและรีเฟรชชีวิตให้สดใหม่ไปด้วยกัน
“การวางโพสิชันตัวเองสำหรับพีทีจี เราไม่ใช่เพียงผู้นำธุรกิจพลังงานครบวงจรแต่เป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่เข้ามาเพื่อตอบโจทย์และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ชีวิตของผู้คนที่หลากหลายให้สดใหม่อยู่เสมอ ซึ่งจากทิศทางการเติบโตของพีทีจีและบริษัทในเครือทั้งหมดเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่าทฤษฎีป่าล้อมเมืองที่เราเคยแถลงไปเมื่อครั้งเริ่มต้นสร้างแบรนด์พีทีจีในวันนี้ได้สำเร็จตามเป้าหมาย ช่วงปีที่ผ่านมาเราสามารถขยายธุรกิจเจาะกลุ่มคนเมืองได้สำเร็จ โดยอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญมาจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นสัดส่วนกำลังซื้อหลัก ทำให้เราเชื่อมั่นว่าแนวคิด สดใหม่ไปกับคุณ และ หนีเที่ยวให้ชีวิตสดใหม่ จะเชื่อมโยงฐานลูกค้าให้เหนียวแน่นรวมถึงขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young Generation) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายพิทักษ์กล่าว
นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า แคมเปญสื่อสารการตลาดปีนี้เรายังคงมุ่งเน้นเข้าถึงและพูดคุยกับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นหลัก ที่มีอิทธิพลต่อลูกค้าเป้าหมายค่อนข้างมาก พร้อมกับนำเครื่องมือ Social Listening มาประกอบการพิจารณาวางกลยุทธ์เจาะกลุ่มความต้องการของลูกค้าควบคู่กับการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าให้อยู่ด้วยกันแบบยั่งยืน ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือบริการซ้ำ (Retention) ตลอดเวลา
สำหรับกิจกรรมภายใต้แคมเปญมีความน่าสนใจและเน้นสร้างความเชื่อมโยงระบบนิเวศทางธุรกิจ (Eco System) ของแบรนด์พีทีจีเข้ากับประสบการณ์ชีวิตหลากหลายแบบของผู้บริโภค (Customer Journey) ทั้งในแง่การชวนออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ใหม่ๆ การชวนทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกน่าสนใจ หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตในการทำงานของเช้าวันใหม่ให้สดใหม่ขึ้น โดยพีทีได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์เหล่านั้นและทำให้แต่ละวันของผู้บริโภคมีรอยยิ้มได้มากขึ้น
“ส่วนตัวมองว่าเป้าหมายความสำเร็จของแคมเปญนี้ ไม่ใช่จำนวนผู้เข้าใช้บริการพีทีจีที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่สำคัญที่สุดคือ เราอยากเห็นทุกคนได้ค้นหาคำตอบชีวิตให้กับตัวเอง แล้วได้ทำตามสิ่งที่มุ่งหวังหรืออยากทำให้เป็นจริง เพื่อให้ชีวิตกลับมาสดใหม่อีกครั้ง” นายพิทักษ์ กล่าวทิ้งท้าย