ค่ายโลห์อัศวิน Porsche เผยรายละเอียดตัวแรงล่าสุดรหัส 911 Turbo ภายใต้ความหล่อเหลาของ 2 สไตล์ตัวถัง คือ Coupe และแบบเปิดประทุน Cabriolet โดยมาพร้อมการนำเสนอความเร้าใจในสมรรถนะ ด้วยพละกำลังที่ขยับขึ้นไปจากเจนเนอเรชั่นที่แล้วอีกราว 40 แรงม้า เป็น 580 แรงม้า ตามด้วยระดับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นอีก 40 นิวตันเมตรเป็น 750 นิวตันเมตร จากพื้นฐานของเครื่องยนต์ Boxer แบบ 6 สูบพิกัด 3.8 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ VTG Turbochargers ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ PDK 8 สปีด สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Porsche Traction Management Active All-Wheel Drive และสร้างผลงานอัตราเร่งสุดเดือดจาก 0-62 ไมล์/ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.8 วินาที หรือเร็วขึ้นอีกราวๆ 2 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นอยู่ที่ 199 ไมล์/ชม.
นอกจากนี้ในเรื่องของระบบช่วงล่างยังได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มเสถียรภาพ จากการขยายความกว้างฐานล้อด้านหน้าเพิ่มเติมจากเจนที่แล้วอีก 42 มม. เพื่อความลงตัวกับล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว กับยาง 255/35 ขณะที่ด้านหลังเพิ่มความกว้าง 10 มม. จับคู่กับล้ออัลลอยด์ขนาด 21 นิ้ว กับยาง 315/30 ก่อนปิดท้ายด้วยเรื่องของระบบเบรกขนาดใหญ่ขึ้น กับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางจานเบรกที่เพิ่มขึ้นเป็น 408 มม. เช่นเดียวกับด้านหลังที่ขยับไปเป็น 380 มม.
ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับยกระดับขีดความสามารถในการซิ่ง ก็ยังคงจัดมาให้ตั้งแต่ระบบช่วงล่างที่มาพร้อมโปรแกรม PASM (Porsche Active Suspension Management) ให้เลือกปรับเปลี่ยนบุคลิกระหว่างความสปอร์ต และความนุ่มนวล
ทั้งยังสามารถเลือกอัพเกรดความร้ายกาจจากออพชั่น ที่จัดมาให้ตั้งแต่ช่วงล่างแบบ PASM Sports ที่มีการปรับลดความสูงลงอีก 10 มม. รวมถึงระบบ PDCC (Porsche Dynamic Chassis Control) สำหรับปรับแต่งเหล็กกันโคลงแบบไฮดรอลิค ตลอดจนระบบเบรก PCCB (Porsche Ceramic Composite Brake) ที่เป็นชุดจานเบรกแบบเซรามิค จับคู่กับคาลิปเปอร์ขนาด 10 Pot ในด้านหน้า
สำหรับในส่วนของรูปลักษณ์ของ 911 Turbo นั้นยังคงได้รับการแสดงตัวตนความเป็นยนตรกรรมสปอร์ตที่ทรงพลัง เสริมด้วยการยกระดับด้านอากาศพลศาสตร์ เช่น ช่องดักอากาศบริเวณซุ้มล้อหลัง โดยมีไฮไลต์เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า Adaptive Aerodynamics ที่ประกอบด้วยชุด Air Flap ตามด้วยชุด Active Front Spoiler ในด้านหน้า และ Variable Rear Spoiler ในด้านหลัง ที่ลงตัวกับความโดดเด่นกับชุดไฟท้ายแบบ LED ทรงแนวนอนยาว และการตกแต่งด้วยโทนสีเงิน Silver Trim บริเวณครีบระบายอากาศบนฝากระโปรงหลัง
ขณะที่ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบสไตล์ผสมผสานระหว่างความคลาสสิค และความร่วมสมัย บนอารมณ์ของโมเดล 911 Carrera ซึ่งมีความชัดเจนที่สุด ก็คือ พื้นที่คนขับแบบ Porsche Advanced Cockpit ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Direct Touch Control ขนาด 10.9 นิ้ว สำหรับรองรับการควบคุมระบบ PCM (Porsche Communication Management) ลงตัวกับอุปกรณ์มาตรฐานที่จัดมาให้เช่น ชุด Sport Chrono package, เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่ปรับไฟฟ้าได้ถึง 14 ทิศทาง และชุดพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่นแบบ GT Sports Steering Wheel ที่มาพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Gearshift Paddles ตลอดจนโปรแกรมช่วยเหลือสำหรับการขับขี่ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Porsche InnoDrive with Adaptive Cruise Control, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง พร้อมระบบอ่านป้ายจราจร Lane Keeping Assist with Road Sign Recognition, ระบบช่วยมองในเวลากลางคืน Night Vision Assist ไปจนถึงกล้องมองภาพรอบทิศทาง Surround View
CR.NetCarShow.com