Nissan Sakura ทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงรถยนต์ EV ได้ง่ายขึ้น

0

Nissan เผยรายละเอียดความน่าสนใจครั้งใหม่ ด้วยการเปิดตัว The All-New Sakuraยนตรกรรมรุ่นล่าสุดในประเทศญี่ปุ่น นำเสนอความโดดเด่นในสไตล์ (Minivehicle) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (Electric) เสริมทัพให้กับ Nissan’s EV Lineup ต่อเนื่องจาก Nissan Leaf และ Nissan Ariya เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงยนตรกรรมในรูปแบบ EV ได้ง่ายขึ้น

โดย Nissan Sakura มากับขนาดที่เน้นความกะทัดรัด จากมิติตัวถังความยาว 3,395 มม., ความกว้าง 1,475 มม., ความสูง 1,655 มม. บนฐานล้อยาว 2,495 มม. และน้ำหนักตัวเบาราวๆ 1,070 – 1,080 กก. ตลอดจนการมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ไปจนถึงความคล่องตัวจากรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 4.8 เมตร

การขับเคลื่อนของ Nissan Sakura ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม – ไอออนขนาด 20 กิโลวัตต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 47 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิด 195 นิวตันมเตร และฟังค์ชั่นโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Standard และ Sport ตลอดจนมีระบบ e-Pedal Step เข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ และการชาร์จไฟด้วยการใช้แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว

ส่วนความเร็วสูงสุดที่ทำได้นั้นว่ากันที่ 130 กม./ชม. กับระยะทางสูงสุดที่ทำได้คือราวๆ 180 กม. ตามมาตรฐาน WLTC Japan Cycle ขณะที่การชาร์จไฟแบบ Standard Charge จะใช้เวลาราวๆ 8 ชั่วโมง ส่วน Quick Charge จะใช้เวลาราว 40 นาที สำหรับชาร์จไฟที่ 80%

นอกจากนี้ Nissan Sakura ในฐานะ Minivehicles ยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยชื่อ ProPILOT มาให้เป็นครั้งแรก ซึ่งระบบ ProPILOT Park สามารถช่วยควบคุมองศาพวงมาลัย, การเร่ง, การเบรก, การเปลี่ยนเกียร์ และการเบรกจอดรถได้โดยอัตโนมัติ

ทางด้านรูปลักษณ์นำเสนอความล้ำสมัยตามแนวทาง Nissan’s Next-Generation เช่น ชุดไฟหน้าทรงเพียบบางแบบ Projector-Type Triple Beams ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก โดยในรุ่นย่อย G และ X ได้ติดตั้งชุดไฟท้าย LED แบบ Combination Lamps มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อีกหนึ่งความโดดเด่นก็คือ ล้ออัลลอยด์ ซึ่งมากับงานดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์งานตกแต่งของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (Japanese Mizuhiki) ส่วนช่องชาร์จไฟที่อยู่ในตำแหน่งด้านหลังฝั่งขวา ก็มีการติดตั้งระบบส่องสว่างมาให้ เพื่อความสะดวกในการใช้งานเวลากลางคืน

ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางรองรับแบบสบายๆ 4 ที่นั่ง และมาพร้อมฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น หน้าจอ Advanced Drive Assist Display ขนาด 7 นิ้ว สำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่ และหน้าจอ Infotainment ขนาด 9 นิ้ว สำหรับรองรับการเชื่อมต่อโปรแกรม NissanConnect, ระบบนำทาง Navigation, ระบบปฎิบัติการ Apple CarPlay และระบบ Emergency SOS Call แถมมาด้วยความอเนกประสงค์จากห้องเก็บสัมภาระซึ่งจุได้ถึงราว 107 ลิตร ตลอดจนความสปอร์ตที่แสดงออกผ่านงานดีไซน์พวงมาลัยแบบก้านคู่ ซึ่งจะมีออพชั่น Premium Interior Package ให้เพิ่มความหรูหราจากพวงมาลัยหุ้มหนัง

Comments are closed.