Nissan เผยรายละเอียดการอัพเกรดรถอเนกประสงค์เวอร์ชั่นปี 2022 ของ Nissan Pathfinder ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ภายใต้การออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อสื่อถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการขับขี่ ตั้งแต่การวางโครงสร้างตัวถังให้กว้างขึ้น พร้อมด้วยระยะโอเวอร์แฮ็งค์ด้านหน้าที่สั้นลง ตลอดจนการสวมใส่ยางขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ความเป็นรถ SUV มากขึ้น ภายใต้รายละเอียดต่างๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Nissan เช่น ชุดกระจังหน้าแบบ V-Motion Grille ขนาดใหญ่ ประกบด้วยชุดไฟหน้า LED ทรง C-Shaped พร้อมไฟ Daytime Running Lights เสริมด้วยความสะดุดตาจากหลังคาแบบ “ลอยตัว” และเสา C-Pillar ที่ให้อารมณ์ความเป็นรถ SUV อย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของ Pathfinder ที่เลือกใช้ตัวถังในสไตล์สีทูโทนอีกด้วย
ส่วนมุมมองด้านข้างนั้นสร้างความรู้สึกแข็งแกร่งบึกบึนด้วยเส้นสายรูปทรง U-Shaped ในส่วนของซุ้มล้อ รับกัยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ต่อเนื่องไปถึงด้านหลังที่สะดุดตาด้วยชุดไฟท้ายใหม่แบบ LED ที่ออกแบบให้เฉียบคมขึ้น และบานประตูฝาท้ายแบบ Boxed Out ที่นำกลับมาใช้เป็นครั้งแรกในโมเดล Pathfinder
ภายในมากับความกว้างขวางสะดวกสบายที่รองรับได้ถึง 8 ที่นั่ง พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับตอบโจทย์การใช้งาน เช่น เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟท้าได้ถึง 10 ทิศทาง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Tri-Zone พร้อมระบบ Climate Controlled, ชุดหน้าจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Head-up Display ขนาด 10.8 นิ้ว และหน้าจอสีระบบสัมผัสสำหรับ Infotainment ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับระบบปฏิบัติการได้ทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ พร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ NissanConnect® ตามด้วยการเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain’s Chairs พร้อมคอนโซลกลางแบบถอดได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ นอกจากนี้เบาะนั่งแถวที่ 2 ยังมาพร้อมกับระบบ EZ FLEX® ที่สามารถปรับพับเลื่อนได้อย่างสะดวกสบายเพียงแค่กดปุ่ม ปิดท้ายด้วยการเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระจากเบาะนั่งถวที่ 3 ซึ่งปรับพับได้แบบ 60/40
ขุมพลังของ Pathfinder มากับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.5 ลิตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ Direct Injection สร้างกำลังสูงสุดไว้ที่ 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 351 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดลูกใหม่ สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Intelligent 4WD เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่มีตัวเลือกโหมดการขับขี่ให้ปรับเปลี่ยนได้ถึง 7 รูปแบบ คือ Standard, Sport, Eco, Snow, Sand, Mud/Rut และ Tow
ด้านระบบพวงมาลัยก็มีการปรับเซ็ทใหม่ให้ลงตัวกับขนาดของยางที่ใหญ่ขึ้นเป็นซีรี่ส์ 255 รวมไปถึงการปรับแต่งระบบช่วงล่างใหม่ ซึ่งใช้พื้นฐานสตรัทในด้านหน้า และมัลติลิงค์ในด้านหลัง ก่อนปิดท้ายด้วยความมั่นใจจากระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ และตัวช่วยจากระบบ Advanced Technology and safety ซึ่งมีจุดเด่นเป็นระบบ Nissan Safety Shield® 360 และระบบ ProPILOT Assist with Navi-link ที่เชื่อมเอาระบบ ProPILOT Assist เข้ากับระบบนำทาง เพื่อช่วยควบคุมการเร่งความเร็ว, การเบรก และการบังคับเลี้ยว ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์การขับขี่
CR.NetCarShow.Com
