Nissan GT-R เวอร์ชั่นปี 2024 จัดเต็มโหดกว่าเดิม!!

0

หลังจากที่ทำตลาดมาอย่างยาวนานมาตั้งแต่ปี 2007 ข่าวยุติสายการผลิต Nissan GT-R (R35) ก็ถูกปล่อยออกมาในช่วงปี

 2022 จนทำเอาสาวกทั่วโลกต้องเศร้าใจ … แต่แล้ว “เซอร์ไพรส์” ครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เมื่อมีการเปิดตัว Nissan GT-R เวอร์ชั่นปี 2024 นำเสนอความโดดเด่นในสไตล์การเปลี่ยนแปลง เพื่อยกระดับศักยภาพด้านอากาศพลศาสตร์ขั้นสุด ลุยตลาดด้วย 3 รุ่นย่อย คือ GT-R Premium และ GT-R T-spec ปิดท้ายด้วยเวอร์ชั่นสูงสุด NISMO ที่จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ต

สำหรับความเปลี่ยนแปลงเพื่ออัพเกรดศักยภาพด้านอากาศพลศาสตร์ จะประกอบด้วยงานดีไซน์ใหม่ของชุดกระจังหน้า รวมไปถึงกันชนหน้า, สเกิร์ตข้าง, กันชนหลัง จนถึงสปอยเลอร์ฝากระโปรงท้าย ซึ่งทั้งหมดได้ช่วยสร้างแรงกด Downforce มากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศยังคงที่อยู่ในระดับ 0.26 Cd

โดยในรุ่นย่อย T-spec เวอร์ชั่นปี 2024 จะเป็นการอัพเกรดขึ้นจากรุ่นย่อย Premium พร้อมการติดตั้งอาวุธด้านสมรรถนะมาให้อย่างครบครัน เช่น การขยายความกว้างของแก้มหน้ามาขึ้น เพื่อให้รับกับล้อจากแบรนด์ RAYS® ขนาด 20 นิ้วสีทอง ตลอดจนเพิ่มสมรรถนะการหยุดยั้งด้วยชุดเบรกคาร์บอนเซรามิค ไปจนถึงการปรับเซ็ทระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว (Vehicle Dynamic Control) ในสไตล์ของ NISMO

ส่วนความสวยงามของรุ่นย่อย T-spec จะมากับตัวถังโทนสีระดับตำนาน คือ สีเขียวเข้ม Dark Mori Green ที่รวมไปถึงการตกแต่งภายในห้องโดยสาร เช่น เบาะคู่หน้าสลับกับวัสดุกึ่งหนังกลับ Semi-Aniline หรือหนังกลับ Suede ก่อนปิดท้ายด้วยโลโก้ T-spec ในจุดสำคัญต่างๆ ทั้งภายนอก และภายในตัวรถ

นอกจากสีเขียวเข้ม Dark Mori Green แล้ว ในรุ่นย่อย T-Spec ยังมากับทางเลือกสีระดับตำนานอีก 2 สไตล์ให้เลือกเช่นกัน คือ สีเขียว Millennium Jade เพื่อแสดงการคาราวะถึง GT-R ระดับ Rare Item อย่าง R34 GT-R V-Spec II Nür ส่วนอีกหนึ่งสี คือ สีม่วง Midnight Purple ซึ่งมากับการตีความใหม่ของโทนสีอันโด่งดังในเรือนร่างของ R34 GT-R V-Spec นั่นเอง

ขณะที่เวอร์ชั่นสูงสุด NISMO จะมากับความโหดขั้นกว่า ด้วยสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ทรง Swan Neck ที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก 10% รวมถึงทำการออกแบบพิเศษให้กับองศาความโค้งของปีก ตลอดจนลิ้นต่อกันชนหน้า (Front Lip), ลิ้นต่อกันชนหลัง (Rear Diffuser) และครีบรีดอากาศ (Canard) เสริมด้วยออพชั่นชุด NISMO Appearance Package เช่น ล้ออัลลอยด์จากแบรน์ RAYS ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยโทนสีแดง, ฝากระโปรงหน้าทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมฝาครอบเครื่องยนต์ออกแบบพิเศษ และท้ายสุดคือการนำเสนอตัวถังโทนสีใหม่ คือ สีเทา Stealth Gray

Nissan GT-R เวอร์ชั่นปี 2024 ยังคงมากับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.8 ลิตร Twin-Turbocharged ซึ่งรุ่นย่อย GT-R Premium และ GT-R T-spec จะมากับกำลังสูงสุด 565 แรงม้า พร้อมแรงบิด 633 นิวตันเมตร ส่วนเวอร์ชั่น NISMO จะขยับขึ้นไปเป็น 600 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 652 นิวตันเมตร

โดยทุกรุ่นจะจะมากับชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด คลัทช์คู่ พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shifters ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ATTESA ET-S All-Wheel-Drive System ที่สามารถแปรผันแรงบิดจากด้านหน้าไปด้านหลัง ได้ตามสถานการณ์ เพื่อสร้างศักยภาพสูงสุดในการขับขี่

ด้านระบบช่วงล่างได้รับการปรับแต่งขึ้นใหม่ บนพื้นฐานด้านหน้าแบบอิสระดับเบิ้ลวิชโบน และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ โดยเปลี่ยนโช๊คอัพไปใช้แบรนด์ Bilstein® พร้อมระบบ DampTronic ที่สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกได้ตามโหมดการขับขี่ คือ โหมด Normal, Comfort และ R

 

CR.NETCARSHOW

Comments are closed.