MG4 Electric X Power คือ โมเดลต่อยอดความสำเร็จ จาก MG4 Electric ด้วยการยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เหนือกว่าใครในคลาส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็น “ต้นแบบ” และ “มาตรฐาน” ใหม่ของยนตรกรรม EV ที่ขับสนุก เร้าใจ
สมรรถนะโดดเด่นด้วย Nebula Pure Electric Platform ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ พร้อมภายนอก Iconic Design สไตล์สปอร์ต ที่มีรายละเอียดสะดุดตา เช่น ไฟหน้า LED Galaxy Technology Matrix Headlights, ไฟท้าย LED ลาย Cgynus Symbol Decorative Light, หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ Twin Arrow Wing, ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว จับคู่กับชุดคาลิปเปอร์เบรกสีส้ม X Power
ภายในห้องโดยสารเรียบง่าย แต่ให้อารมณ์ความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยวัสดุหุ้มเบาะที่ผสมผสานระหว่างหนังสังเคราะห์และหนังอัลคันทาร่า (Alcantara) ลงตัวกับความโดดเด่นของคอนโซลกลางแบบ Floated Central Control Platform มาพร้อมความสะดวกสบายจากออพชั่นมาตรฐาน อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C, อุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) ตลอดจน ระบบปรับอากาศที่มาพร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
จุดเด่นที่ทำให้สมรรถนะของ MG4 Electric X Power เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น คือ ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบPermanent Magnet Synchronous Motor จำนวน 2 ตัว โดยที่มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให้กำลังสูงสุด 204แรงม้า (150 กิโลวัตต์) ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้า (170 กิโลวัตต์) รวมมีพละกำลังสูงสุดถึง 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Normal, Sport, Custom และ Snow โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ใน 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง
MG4 Electric X Power มากับเทคโนโลยี Rubik’s Cube Battery ขนาดความจุ 64 กิโลวัตต์ (NMC battery) สามารถวิ่งได้ระยะทาง 480 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้งตามมาตรฐาน NEDC ทั้งยังให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ One Pedal มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่ปรับได้ถึง 4 ระดับ คือ ต่ำ, กลาง, สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (Adaptive)
ปิดท้ายด้วยความมั่นใจในการขับขี่ ซึ่งประกอบด้วย การออกแบบให้กระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 รวมถึงการออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Low Centre of Gravity) เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม, ระบบพวงมาลัยใหม่แบบ Dual Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า ให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 5.3 เมตร ตลอดจนติดตั้งระบบดิสก์เบรก 4 ล้อมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัยระดับ Iconic Safety มาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System ที่มากถึง 23 ระบบ