ค่ายดาวสามแฉกเผยโฉม “ชายกลาง” สายโหด รหัส E53 AMG ออกมาให้สาวกได้เลือกเป็นเจ้าของกัน 2 รุ่นตัวถังคือ รูปแบบยนตรกรรม Saloon และรถอเนกประสงค์ Estate สุดหล่อ โดยทั้ง 2 เวอร์ชั่นจะมาพร้อมการปรุงแต่งความหล่อเหลา ตามสไตล์ AMG ให้กับรูปลักษณ์ เช่น ด้านหน้าที่มากับชุดกระจัง AMG-Specific ประกบด้วยชุดไฟหน้าทรงเรียบแบบ LED เสริมความโดดเด่นด้วยชุดกันชนหน้าสไตล์ A-Wing พร้อมครีบรีดอากาศแนวตั้ง 5 ชิ้นบริเวณกึ่งกลาง
ด้านหลังมากับชุดไฟท้าย LED แบบ 2 ชิ้น สำหรับรุ่นตัวถัง Saloon ขณะที่รุ่น Estate นั้นได้รับการดีไซน์รายละเอียดภายในชุดไฟท้ายขึ้นใหม่ อีกทั้งยังมีการปรับดีไซน์ของชุดกันชนหลังในรุ่น Saloon เพื่อเสริม Diffuser ใหม่ และติดตั้งมาให้ทั้งในรุ่น Saloon และ Estate ปิดท้ายด้วยเรื่องของล้ออัลลอยด์ AMG ซึ่งมากับขนาด 19 นิ้วเป็นมาตรฐาน และขนาด 20 นิ้วให้เลือกเป็นออพชั่น
นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนในรายละเอียดต่างๆ ให้กับทั้ง 2 รุ่น เช่น ฝากระโปรงหน้าแบบ Two Powerdomes, ช่องดักอากาศด้านหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เสริมด้านล่างด้วย Splitter สี Silver Chrome ตลอดจนเลือกใช้โทนสีดำเงา High-Gloss Black ในส่วนที่เสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ โดยมีด้านหลังที่สะดุดตาด้วยชุดท่อไอเสียทรงกลมคู่ ที่สามารถเลือกโทนสีได้ ระหว่างสีโครเมี่ยมดำเงา High-Gloss Chrome และสีดำ High-Gloss Black อันเป็นส่วนหนึ่งจากชุดออพชั่น AMG Night Package ซึ่งจะใช้โทนสีดำ High-Gloss Black ในส่วนต่างๆ ของตัวรถ เพื่อเพิ่มบุคคลิกดุดัน
ด้านในห้องโดยสารยังคงนำเสนอความสปอร์ตที่ผสมผสานกับความเรียบหรูสไตล์ AMG เช่น เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่หุ้มด้วยวัสดุหนัง ARTICO และ DINAMICA Microfibre ตัดเย็บด้วยด้ายสีแดง และการประทับตราสัญลัก?ณ์ AMG แต่สามารถจัดออพชั่น AMG Performance Seat Packages เพิ่มเติมได้
อีกทั้งยังเพิ่มความล้ำด้วยระบบความบันเทิง MBUX Infotainment System เจนเนอเรชั่นล่าสุด พร้อม 2 หน้าจอ Display ทั้งมาตรวัด และมัลติมีเดีย แบบ Widescreen Cockpit ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบหน้าจอแสดงผล AMG Display ได้ถึง 3 รูปแบบ คือ Modern Classic, Sport และ Supersport โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ฟังค์ชั่น AMG Menu ที่สามารถแสดงผลข้อมูลเครื่องยนต์, ความเร็วในแต่ละตำแหน่งเกียร์, การวอร์มอัพ, การปรับแต่ง, ค่าแรง G และ RACETIMER สำหรับการจับเวลา
แถมด้วยการเพิ่มอรรถรสความสปอร์ตจากชุดพวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel ใหม่ ที่มากับระบบมัลติฟังค์ชั่น ซึ่งสามารถควบคุมได้ทั้งระบบความบันเทิง และตัวช่วยต่างๆ สำหรับเสริมสมรรถนะการขับขี่ ตลอดจนแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift หลังพวงมาลัย
ขุมพลังของ Mercedes-Benz E53 AMG ทั้ง 2 รุ่นมากับพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ พิกัด 3.0 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 435 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร พ่วงระบบ EQ Boost ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 16 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง เพื่อเสริมสมรรถนะ โดยมีชุดเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (AMG Speedshift TCT) ที่ได้ปรับอัตราทดให้ชิดขึ้น โดยมีฟังค์ชั่น AMG Dynamic Select ให้เลือกปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ที่ประกอบด้วย Slippery, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual
ถ่ายทอดสู่เสถียรภาพการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC+ และระบบช่วงล่างมาตรฐาน AMG Ride Control+ ที่สามารถปรับแต่งโช๊คอัพได้ด้วยระบบ Adaptive Damping System ประกอบด้วย 3 รูปแบบหลัก คือ Comfort, Sport และ Sport+
ก่อนปิดท้ายด้วยความมั่นใจจากระบบเบรกสมรรถนะสูงที่มากับจานเบรกหน้าขนาด 370 x 36 มม. จับคู่คาลิปเปอร์ 4 Pot ในด้านหน้า พร้อมการประทับอักษร AMG โดยมีจานเบรกด้านหลังขนาด 360 x 26 ที่จับคู่กับคาลิปเปอร์แบบ Single Pot
ส่วนเรื่องสมรรถนะของ Mercedes-Benz E53 AMG นั้นถูกจำกัดความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กม./ชม. และสามารถขยับไปถึง 270 กม./ชม. ได้หากติดตั้งออพชั่น AMG Driver’s Package
CR.NetCarShow.com
