ค่ายดาวสามแฉกปล่อยของแรง Mercedes-Benz A45 S AMG สู่ตลาด วางตำแหน่งเป็นสายโหดสไตล์ Hot Hatch 5 ประตูสุดร้อนแรงจาก Mercedes-AMG ที่ได้รับการปรับแต่งขึ้นใหม่ด้วยแนวทาง AMG Familyโดยยกระดับความดุดันตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ชุดกระจังหน้า AMG ที่ออกแบบใหม่ ด้วยการเพิ่มความกว้าง พร้อมการขยับตำแหน่งติดตั้งให้ต่ำลงด้านล่าง สร้างความโดดเด่นด้วยซี่กระจังแนวตั้ง 12 ซี่ ภายใต้งานออกแบบที่มีเอกลักษณ์ซึ่งเรียกว่า “Shark Nose” เสริมด้วยความเฉียบคมจากงานออกแบบชุดไฟหน้าใหม่ ไปจนถึงฝากระโปรงหน้ารูปทรง Powerdomes และชุดกันชนหน้าทรง Jet-Wing ที่ออกแบบให้บริเวณช่องดักอากาศมีขนาดกว้าง ลงตัวกับซุ้มล้อหน้าที่ถูกขยาย ซึ่งมีการติดตั้งครีบรีดอากาศ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์
โดยมุมมองด้านข้างนั้นหล่อเหลาด้วยชุดสเกิร์ตขนาดใหญ่ และตำแหน่งการติดตั้งกระจกมองข้างซึ่งอยู่บนบานประตู เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็น Mercedes-AMG Coupe ขณะที่ล้ออัลลอยด์ในเวอร์ชั่น “S” จะมากับขนาดมาตรฐาน 19 นิ้ว ส่วนด้านหลังของเวอร์ชั่น “S” ยกระดับความดุดัน และโดดเด่น ด้วยสปอยเลอร์หลังคา ซึ่งเฉี่ยวพอๆ กับชุดไฟท้ายแบบ 2 ชิ้น ปิดท้ายความดุด้วย ชุดกันชนหลังที่มากับ Diffuser ที่ออกแบบให้รับกับชุดท่อไอเสีย AMG ขนาด 90 มม. พร้อมกับเสริมด้วยช่องระบายอากาศแบบมีครีบในแนวตั้ง
ส่วนไฮไลต์ของ Mercedes-Benz A45 S AMG คือ สิ่งที่อยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า กับขุมพลังเบนซินที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นใหม่ จากพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พิกัด 2.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged ซึ่งทำกำลังสูงสุดได้ถึง 421 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด AMG Speedshift DCT-8G แบบ Dual-Clutch
และยังคงมากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AMG Performance 4MATIC+ ที่มากับอรรถรสความมันส์ในการขับขี่ ด้วยการส่งถ่ายกำลังไปที่ล้อคู่หลังเป็นส่วนใหญ่ โดยมีระบบ AMG Torque Control แบบอิเล็กทรอนิกส์ เสริมด้วยความปลอดภัยจากชุดเฟืองท้าย Rear Axle Differential ซึ่งมากับ Multidisc Clutches ที่ติดตั้งมาให้ในล้อหลังแต่ละข้าง
เพื่อคอยควบคุมการกระจายแรงบิดตามสถานการณ์ และการเลือกใช้งานตามแต่ละโหมดการขับขี่จากระบบ AMG Dynamic Select ที่มีให้ถึง 6 รูปแบบ เช่น Slippery, Comfort, Sport, Sport +, Individual และ Race พร้อมด้วยความดุดันจากระบบช่วยออกตัว Race-Start
ด้านระบบช่วงล่างมากับชุดใหญ่ AMG Suspension พร้อมระบบ AMG Ride Control ที่สามารถปรับแต่งโช๊คอัพแบบ Adaptively Adjustable Damping ซึ่งอัพเกรดขึ้นใหม่ ด้วยการลดอาการโคลงของตัวถังให้น้อยลงเมื่อใช้ความเร็วในการเข้าโค้ง ทั้งยังมาพร้อมกับการนำเสนอความนุ่มนวลมากขึ้นจากรุ่นที่แล้ว
ปิดท้ายด้วยความมั่นใจผ่านระบบเบรกชุดใหญ่ด้วยจานเบรกขนาด 360×36 มม. ในด้านหน้าจับคู่กับคาลิปเปอร์เบรก 6 Pot สีแดง ประทับอักษร AMG สีดำ พร้อมการการันตีความเร้าใจ ด้วยสมรรถนะจากตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที โดยมีท็อปสปีดสูงสุดที่จำกัดเอาไว้ 270 กม./ชม.
CR.NetCarShow.com