Automobili Lamborghini เผยรายละเอียดล่าสุด Lamborghini Urus Performante ยนตรกรรมอเนกประสงค์เวอร์ชั่นใหม่ ที่อัพเกรดแบบก้าวกระโดดสู่ฐานะSuper SUV ตั้งแต่งานดีไซน์รูปลักษณ์อันโดดเด่น แฝงความทรงพลัง เพื่อสื่อถึงผลงานวิศวกรรมระดับ Super Sports ที่แอบซ่อนอยู่ภายใน
การันตีด้วยผลงานลับๆ ก่อนเปิดตัว กับการสร้างสถิติใหม่ในกลุ่มยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV บนเส้นทางชันสุดโหดของงาน Pikes Peak International Hill Climb Road ความสูงกว่า 4,302 เมตร ที่โชว์ผลงานเดือดด้วยเวลาเพียง 10:32.064 นาที ทำลายสถิติเดิม 10:49.902 นาที ในปี 2018 ลงอย่างสิ้นเชิง
Urus Performante ได้รับการปรับแต่งรูปลักษณ์ใหม่ โดยผสมผสานความโดดเด่นเข้ากับงานอากาศพลศาสตร์ชั้นสูง สร้างขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่นอกจากจะสามารถช่วยเพิ่มแรงกด Downforce ได้มากขึ้นอีกราวๆ 38% แล้ว ยังมากับการช่วยเพิ่มความยาวตัวรถอีก 25 มม.
ซึ่งประกอบด้วยดีไซน์ของชุดกันชนหน้าใหม่ และ Splitter ด้านหน้า ซึ่งรับกับช่องดักอากาศโทนสีดำออกแบบใหม่ ตลอดจนฝากระโปรงหน้า พร้อมช่องระบายอากาศ ที่เปลี่ยนไปใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนัก และสามารถเลือกได้ว่าต้องการโทนสีเดียวกับตัวรถ หรือสีผิวของคาร์บอนไฟเบอร์
ส่วนด้านหลังสร้างจุดเด่นด้วยแรงบันดาลใจจาก Aventador SVJ ในการดีไซน์ชุดสปอยเลอร์หลังใหม่ เพิ่มความดุดันให้กับมุมมองด้านท้ายร่วมกับชุดกันชนท้าย และ Diffuser หลัง ออกแบบให้รับกับชุดท่อไอเสียไททาเนียมจากแบรนด์ Akrapovic ซึ่งพัฒนาให้มีเสียงเฉพาะตัวสไตล์ Lamborghini และตามแต่ละโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้
นอกจากนี้แล้ว หากยังเติมเต็มความสปอร์ตได้ไม่สุด ทาง Automobili Lamborghini ก็ยังมีออพชั่นน่าสนใจ เป็นหลังคาทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบเดียวกับตัวแรงอย่าง Huracán Performante และ Super Trofeo ให้เลือกอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารมากับอารมณ์สปอร์ตเต็มพิกัด ด้วยวัสดุ Alcantara โทนสีดำ Nero Cosmus และงานตัดเย็บเบาะลวดลาย 6 เหลี่ยมสไตล์ Performante Trim เช่นเดียวกับภาพรวมของงานตกแต่ง แต่หากต้องการเอกลักษณ์เฉพาะตัว โปรแกรมการตกแต่งแบบ Ad Personam ของ Lamborghini ก็มีไว้ตอบสนองความต้องการ หรือหากชื่นชอบความดุดันด้วยโทนสีดำด้านออพชั่น Dark Package ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน และนอกจากสไตล์การตกแต่งที่เร้าใจแล้ว ชุดมาตวัด HMI Graphic แบบใหม่ ที่ออกแบบมาเฉพาะ Urus Performante ก็ยังเป็นอะไรที่ยกระดับอารมณ์สปอร์ตในการขับขี่ได้ดีมากขึ้นอีกด้วยเช่นกัน
Urus Performante ได้รับการอัพเกรดในส่วนของช่วงล่าง ด้วยชุดสปริงใหม่ ซึ่งช่วยลดระดับความสูงตัวรถลงอีกราว 20 มม. พร้อมกับความกว้างแทรคล้อที่เพิ่มขึ้นอีก 16 มม. จับคู่กับล้อฟอร์จน้ำหนักเบาขนาด 22 นิ้ว พร้อมน็อตล้อไทเทเนียม และยาง Pirelli P Zero Trofeo R ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และนำมาใช้เป็นครั้งแรกกับขนาด 285/40 R22 ในด้านหน้า และขนาด 325/35 R22 ในด้านหลัง โดยหากยังไม่ตอบโจทย์ความสปอร์ตก็สามารถเลือกเปลี่ยนเป็นออพชั่นล้อฟอร์จขนาด 23 นิ้วได้
ขุมพลัง V8 ขนาด 4.0 ลิตร เสริมแรงด้วย Twin Turbo คือ อีกหนึ่งผลงานการอัพเกรดที่โดดเด่น ภายใต้น้ำหนักที่เบาลงจากรุ่นมาตรฐาน 47 กก. ทำให้พละกำลังขยับขึ้นมาอีก 16 แรงม้า รวมเป็น 666 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 850 นิวตันเมตร จนได้มาซึ่งความร้ายกาจระดับ 0-100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที กับท็อปสปีดสูงสุดที่ 306 กม./ชม.
อีกทั้งยังมากด้วยความมั่นใจจากระบบเบรกที่หยุดความเร็วจาก 100-0 กม./ชม. ได้ภายในระยะทาง 32.9 ม. ตลอดจนการควบคุมที่เฉียบคมขึ้น จากการปรับแต่งระบบพวงมาลัยใหม่ ต่อเนื่องไปจนถึงระบบเลี้ยวล้อหลัง ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัว ที่มาพร้อมกับระบบล็อคเฟืองท้าย Rear Differential และระบบ Torque Vectoring คอยจัดสรรแรงบิดให้เหมาะสมกับการขับขี่ทั้งบนถนน On-Road และการขับในโหมด Off-Road
ส่วนโหมดการขับขี่ของ Urus Performante ยังคงมากับ 3 โหมดหลัก คือ Strada, Sport และ Corsa แถมด้วยความพิเศษจากโหมดการขับขี่ Rally ที่จะช่วยยกระดับความมันส์ในการขับ Off-Road ด้วยยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับ Super SUV ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และสมรรถนะ