Automobili Lamborghini เผยโฉม Lamborghini Huracan เวอร์ชั่นโหด STO (Super Trofeo Omologata) ที่หยิบยกอารมรณ์ของตัวแข่ง Huracan Super Trofeo EVO เจ้าของรางวัลชนะเลิศ 3 สมัยในการแข่งขัน 24 Hours of Daytona และ Huracan GT3 EVO ผู้คว้าแชมป์ 2 สมัยจากรายการ 12 Hours of Sebring มาเป็นแรงบันดาลใจ
เริ่มกันตั้งแต่รูปลักษณ์ที่สะดุดตาด้วยชุด Aerodynamic Parts รอบคัน ที่ได้ความร่วมมือจากศูนย์ Lamborghini’s R&D และ Centro Stile ออกแบบ ด้วยแรงบันดาลใจจากรถสนาม เพื่อยกระดับงานอากาศพลศาสตร์ชั้นสูง เช่น ด้านหน้าที่ในส่วนของ ฝากระโปรงหน้า, แก้มหน้า และกันชนหน้า มีการออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด โดยมีที่มาแห่งแรงบันดาลใจ Lamborghini Miura และ Lamborghini Sesto Elemento
ตามด้วยการออกแบบช่องดักอากาศบนฝากระโปรงหน้าใหม่ ที่ช่วยให้อากาศไหลตรงเข้าทำการระบายความร้อนเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีการเสริม Splitter ดีไซน์ใหม่ใต้กันชนหน้า ที่เพิ่มความสามารถในการลำเลียงอากาศใต้ทองรถสู่ Diffuser ด้านหลังได้ดีขึ้น ตลอดจนออกแบบให้มีการระบายอากาศเพื่อช่วยลดแรงดันจากด้านในซุ้มล้อหน้า ไปพร้อมกับช่วยเพิ่มแรงกด Downforce ด้านหน้ารถมากขึ้น
ทั้งยังรวมไปถึงการดีไซน์ในด้านข้างของชุดกันชนหน้าที่ช่วยให้กระแสลมไหลผ่านล้อคู่หน้าได้ง่ายโดยไร้แรงต้านอีกด้วย ขณะที่บริเวณแก้มล้อคู่หลังมากับช่องระบายอากาศแบบใหม่ที่เรียกว่า NACA Air Intake ซึ่งหยิบยืมมาจาก Huracan Super Trofeo EVO กับคุณสมบัติที่ออกแบบให้กระแสลมไหลผ่านได้สะดวก และช่วยเสริมแรงกด Downforce ในด้านหลัง
รวมไปถึงการเพิ่ม Air Scoop ด้านบนหลังคา เพื่อทำหน้าที่ดักอากาศเข้าระบายความร้อนในส่วนเครื่องยนต์ เสริมด้วยครีบทรง Shark Fin บนฝากระโปรงหลังที่ช่วยยกระดับการขับขี่ให้มีเสถียรภาพมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้ง จากกระแสลมที่เปลี่ยนองศา และแรงดันที่แตกต่างกัน ซึ่งจะส่งตรงสู่ Rear Wing ด้านหลัง 2 ชั้นแบบปรับระดับได้
โดยผลงานการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ในครั้งนี้ทำให้ Huracan STO คือ ยนตรกรรมที่มีประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ดีที่สุดในตระกูลรถขับเคลื่อนล้อหลัง จากการที่ทำให้อากาศไหลผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 37% จนสามารถสร้างแรงกด Downforce ได้มากกว่า Huracan Performante ถึงราวๆ 53% เลยทีเดียว
นอกจากนี้ในส่วนของตัวถังยังทำการลดน้ำหนักด้วยการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มากถึง 75% ผสมผสานด้วยวัสดุอลูมิเนียม ตลอดจนกระจกบังลมที่ปรับให้มีขนาดบางลงกว่า Huracan Performante อีก 20% ทำให้น้ำหนักโดยรวมนั้นเหลือเพียงแค่ 1,339 กก. เท่านั้น
ขุมพลังของ Huracan STO ยังคงมากับเครื่องยนต์เบนซิน ไร้ระบบอัดอากาศขนาด 5.2 ลิตร แบบ V10 บล็อกเดียวกับ Huracan EVO และ Super Trofeo ซึ่งมีพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ 640 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 565 นิวตันเมตร พร้อมการปรับแต่งในถ่ายทอดกำลังได้รวดเร็วขึ้น เพื่อถ่ายทอดไปยังล้อหลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Dual-Clutch รองรับความสามารถด้วยแทรคล้อที่ขยายความกว้างเพิ่มขึ้น, บูชยางช่วงล่างที่แข็งแกร่ง และชุดเหล็กกันโคลงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เสริมด้วยระบบ Lamborghini’s MagneRide 2.0 เพื่อให้สามารถนำเสนอได้ทั้งอรรถรสความเป็นรถแข่ง และความสะดวกสบายบนท้องถนน ผ่านฟังค์ชั่นปรับรูปแบบการขับขี่ ANIMA โดยมีระบบ Veicolo Dinamica Integrata (LDVI) ควบคุมการแปรเปลี่ยนบุคคลิกตามการเลือกที่มีให้ 3 รูปแบบ คือ STO Mode สำหรับการวิ่งถนน, Trofeo Mode สำหรับงานภาคสนาม และ Pioggia Mode สำหรับภารกิจใช้งานบนถนนลื่น หรือฝนตก
ปิดท้ายด้วยความมั่นใจจากระบบเบรกที่ติดตั้งแบรนด์ Brembo แบบ CCM-R คาร์บอนเซรามิคที่ ยกเทคโนโลยี และวัตถุดิบมาจากการแข่งขัน Formula 1 ซึ่งมีจานเบรกหน้าขนาด 390 มม. และจานเบรกหลังขนาด 360 มม. ซึ่งซุกอยู่ภายในล้อแมกนีเซียมขนาด 20 นิ้ว พร้อมคุณสมบัติการหยุดยั้งที่ดีขึ้นถึง 60%, มีกำลังในการเบรกดีขึ้น 25% และใช้งานได้ยาวนานขึ้นถึง 7%
CR.NetCarShow.com