เมื่อไม่นานที่ผ่านมา แบรนด์ยนตรกรรมสัญชาติเกาหลีได้เปิดตัวโมเดลล่าสุด Kia Niro ที่มาพร้อมการปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอก และภายในครั้งใหญ่ กว่าเจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา โดยยังคงอยู่บนพื้นฐานรูปลักษณ์สไตล์ Crossover ผสมผสานด้วยแรงบันดาลใจจากรถต้นแบบ HabaNiro Concept ที่นำเสนอความดุดัน เกรี้ยวกราด ดังจะเห็นได้จากรูปลักษณ์ ผ่านมุมมองด้านหลังที่ประกอบด้วยเสา C-Pillar และชุดไฟท้ายแนวตั้ง วางตำแหน่งตามดีไซน์ของเสา C-Pillar
โดยความน่าสนใจของ Kia Niro ที่มากกว่างานดีไซน์ หรือออพชั่นต่างๆ ก็คือ ขุมพลังที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครอบคลุม ทั้งรูปแบบของเครื่องยนต์ Hybrid, Plug-in Hybrid และพลังไฟฟ้า EV
ไล่มาตั้งแต่ Kia Niro รุ่น Hybrid Sports ที่เร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร เสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ร่วมมือกันสร้างพละกำลังสูงสุดได้ที่ 139 แรงม้า และส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ (Dual Clutch) แบบ 6 สปีด
ขยับขึ้นไปอีกระดับ คือ Kia Niro แบบ Plug-in Hybrid ที่มีแบตเตอรี่ขนาด 32 กิโลวัตต์/ชั่วโมง จ่ายไฟให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลัง 62 กิโลวัตต์ เป็นขุมพลังเสริม ร่วมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร จนได้เรี่ยวแรงสูงสุด คือ 180 แรงม้า
ทีเด็ดสุดท้าย ต้องยกให้กับ Kia Niro แบบ EV ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วน จากแบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน ขนาด 64.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ในการสร้างกำลังสูงสุด คือ 201 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร พร้อมกับนำเสนอความเร้าใจด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.8 วินาที ตลอดจนการชาร์จเต็มเพียงหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP ที่สามารถวิ่งทำระยะทางได้มากถึง 463 กม. เลยทีเดียว
