Kia K5 GT มากับ 2 ทางเลือกขุมพลัง Turbocharged

0

Kia Motors America (KMA) ส่งตรงโมเดล K5 ยนตรกรรมขนาดกลางสู่ตลาด พร้อมด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ โดยมี Kia K5 เป็นบรรทัดฐาน ในเรื่องของระบบความปลอดภัย และสมรรถนะ ซึ่งนำเสนอผ่านรูปลักษณ์อันโดดเด่น เช่น มุมมองด้านหน้าที่มากับเอกลักษณ์ “Tiger Face” อันสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงกว้าง ที่ออกแบบให้เฉียบคมมากขึ้น เพื่อให้รับกับเส้นสายโครงสร้างของชุดไฟหน้า และฝากระโปรง

ขณะที่มุมมองด้านข้างมากับความสปอร์ตผ่านรูปทรงแบบ Fastback พร้อมการนำเสนอความโฉบเฉี่ยวด้วยรายละเอียดการตกแต่งจากโครเมี่ยมตั้งแต่แนวเสา A-Pillar ยาวต่อเนื่องไปจนถึงแนวหลังคา จนกระทั่งลาดเอียงลงในด้านหลัง

โดยในรุ่นย่อย GT-Line และ GT จะได้รับการอัพเกรดความเร้าใจเพิ่มเติม ด้วยชุดกระจังหน้าที่มีแรงบันดาลใจในการออกแบบด้วยสไตล์ที่เรียกว่า Shark Skin, ชุดไฟ Daytime Runing Lights สไตล์ “Heart Beat” และชุดไฟท้าย LED ที่ออกแบบให้ยาวต่อเนื่องตลอดความกว้างของตัวรถ พร้อมกับเสริมความโดดเด่นด้วยชุดท่อไอเสียแบบโครเมี่ยม และการตกแต่งด้วยโทนสีดำ Gloss Black ในส่วนของชุดกระจกบังลมหลัง ก่อนปิดท้ายด้วยชุดล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ ซึ่งมีขนาดให้เลือก คือ 16, 18 และ 19 นิ้ว  โดยขนาด 18 และ 19 นิ้วจะจับคู่กับยางสปอร์ต Pirelli P-Zero มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ด้านในห้องโดยสารได้รับการออกแบบ Cockpit คนขับใหม่ ที่มาพร้อมกับชุดหน้าจอ Infotainment ออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับชุดหน้าจอมาตรวัดแบบ 3 มิติ ตามด้วยการเสริมฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวกระดับไฮไลต์ เช่น หลังคา Panoramic Sunroof, งานดีไซน์หัวเกียร์แบบ Aircraft-Type ตลอดจนการเลือกใช้วัสดุที่ให้อารมณ์พรีเมี่ยม และสปอร์ตเป็นส่วนประกอบ เช่น เบาะนั่งหุ้มหนังโทนสีแดง ผสมผสานการตกแต่งด้วยวัสดุโทนสี Satin Chrome Metallic และลายไม้ในส่วนของชุดแดชบอร์ด และแผงประตู ขณะที่รุ่น GT-Line และ GT จะถูกเติมเต็มด้วยพวงมาลัยสปอร์ตแบบ Flat-Bottom

สมรรถนะของ K5 มากับ 2 ทางเลือกขุมพลัง โดยมีพระเอกเป็นตัวแรงพิกัด 2.5 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged ที่มีกำลังสูงสุด 290 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร จับคู่กับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดลูกใหม่ แบบคลัทช์คู่ ที่สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-60 ไมล์/ชม. ได้ใน 5.8 วินาที

รองลงมาจะเป็นบล็อก 1.6 ลิตร Turbocharged ที่มีกำลังสูงสุด 180 แรงม้า พร้อมแรงบิด 264 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดลูกใหม่เช่นกัน ทั้งยังเป็นครั้งแรกในยนตรกรรมซีดานจากค่าย Kia ที่มีเวอร์ชั่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD เอาไว้ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก โดยมีการเพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อน นอกเหนือจากโหมด Normal, Smart, Sport, และ Custom ก็คือโหมด Snow

 

CR.NetCarShow.com

Comments are closed.