Jaguar F-Pace SVR รถอเนกประสงค์สมรรถนะสูง

0

Jaguar F-Pace SVR มากับฐานะของยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV สมรรถนะสูงอย่างที่ไม่เคยสร้างมาก่อน ด้วยแรงบันดาลใจจากสายงานมอเตอร์สปอร์ต ผสมผสานด้วยความหรูหราของภายในห้องโดยสาร และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออันล้ำสมัยเจนเนอเรชั่นล่าสุด

โดยทีเด็ดของ Jaguar F-Pace SVR ก็คือ เครื่องยนต์เบนซินอันทรงพลังแบบ V8 พิกัด 5.0 ลิตร เสริมแรงด้วยระบบ Supercharged ที่สร้างพละกำลังมาให้ใช้ถึง 550 แรงม้า และมีแรงบิดที่สูงขึ้นอีกราว 20 นิวตันเมตรเป็น 700 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด สู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive ที่มาพร้อมระบบ Intelligent Driveline Dynamics ซึ่งได้รับการติดตั้งเฟืองท้ายแบบ Electronic Active Differential เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมการเคลมตัวเลขความเร้าใจมาให้ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.0 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ขยับขึ้นมาเป็น 286 กม./ชม.

นอกจากนี้ยังมากับเจนเนอเรชั่นล่าสุดของระบบที่มีชื่อเรียกว่า Electronic Vehicle Architecture (EVA 2.0) ซึ่งสามารถปรับแต่งระบบส่งกำลัง และการเคลื่อนไหว เพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในรูปแบบ Dynamic Mode ที่จะสังเกตเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนกับ Comfort Mode ตั้งแต่การตอบสนองของคันเร่งที่ฉับไว, ระบบช่วงล่างแบบ Adaptive Dynamics Suspension ที่แข็งแกร่งขึ้น, น้ำหนักพวงมาลัยที่เซ็ทอัพอย่างเหมาะสม และระบบไอเสียที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนรักษากำลังขับเคลื่อนให้กับล้อ ขณะอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนเกียร์อีกด้วย

ระบบเบรกยังเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมการอัพเกรดเพื่อให้รองรับกับสมรรถนะ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้จานเบรกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในด้านหน้าเป็น 395 มม. และด้านหลังที่ 396 มม. พร้อมการปรับแต่งใหม่ ให้เหมาะสมกับการเสริมแรงด้วยระบบ Integrated Power Booster เจนเนอเรชั่นล่าสุด ที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้จากระยะเบรกที่สั้นลง

อีกทั้งในโมเดล F-Pace ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาในส่วนของโครงสร้างแซสซีร์ ที่มาพร้อมระบบ JaguarDrive Control สำหรับปรับเปลี่ยนบุคลิกให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ ที่ประกอบด้วยโหมด Comfort, Eco, Rain-Ice-Snow และ Dynamic รวมไปถึงการระบบ Auto Vehicle Hold ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานได้ดีกว่าระบบ Automatic Hill Hold ด้วยการช่วยเบรกได้ไม่จำกัดระยะเวลา แม้จอดนิ่งบนทางลาดชัน และจะปล่อยเบรกเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่งเท่านั้น

ด้านรูปลักษณ์มากับแรงบันดาลใจจากสายมอเตอร์สปอร์ต ด้วยช่องดักอากาศขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้ารูปทรง  X-shape ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Jaguar XE SV Project 8 ที่นอกจากสร้างความดุดันด้วยลักษณะการออกแบบที่ดูเตี้ย และกว้างแล้ว ยังทำหน้าที่สำหรับระบายความร้อนเครื่องยนต์ และระบบเบรก ที่ช่วยลดแรงยก และแรงต้านได้เพิ่มขึ้น 35% ทำให้โดยรวมแล้วมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำลงจาก 0.37 Cd เหลือ 0.36 Cd ตามด้วยการเพิ่มรายละเอียดความเร้าใจด้วยตราสัญลักษณ์ SVR บนชุดกระจัง ประกบด้วยชุดไฟหน้ารูปทรงเพรียวบาง Super-Slim แบบ LED พร้อมด้วยชุดไฟ Daytime Running Light ในรูปทรงแบบ Double J ซึ่งมากับเทคโนโลยีออพชั่น Pixel LED ที่ส่องสว่างได้ชัดเจนขึ้น เสริมด้วยระบบ Adaptive Driving Beam สำหรับปรับไฟสูงอัตโนมัติ

ขณะที่ด้านหลังมากับชุดไฟท้ายทรงเพียวบางเช่นกัน พร้อมด้วยงานดีไซน์ที่คุ้นตาจากยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่น I-PACE ตามด้วยการติดตั้งโลโก้ SVR พร้อมชุดกันชนหลังที่ออกแบบให้ต่ำลง รับกับชุดท่อไอเสียคู่ซ้าย-ขวา ขณะที่ล้ออัลลอยด์ขนาดมาตรฐานที่จัดมาให้นั้น คือขนาด 22 นิ้วลาย 5 ก้านโทนสีดำ Gloss Black ตัดสลับด้วยโทนสีเทา Satin Grey ก่อนปิดท้ายด้วยตราสัญลักษณ์บนดุมล้อเป็นโลโก้ SVR

ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมการเลือกใช้วัสดุที่พรีเมี่ยมมากขึ้น เช่น เบาะนั่งทรงสปอร์ตที่มาพร้อมโลโก้ SVR บนหมอนรองศรีษะ, แผงประตู และชุดกรอบหน้าจอมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้วที่หุ้มด้วยหนัง Alcantara พร้อมคอนโซลหน้าที่หุ้มด้วยหนัง Windsor

ส่วนชุดหัวเกียร์ Drive Selector นั้นมากับการหุ้มหนังสไตล์ย้อนยุค ผสานด้วยโลโก้ SVR ขณะที่ชุดพวงมาลัย ซึ่งใช้วัสดุหนังชนิดเดียวกันนั้นเพิ่มความสะดุดตาเข้าไปด้วยโลโก้ SVR สีแดง ตัดกับแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยที่ทำจากวัสดุอัลลอยด์ โดยมีปุ่ม Start Button ทำจากวัสดุโลหะเพื่อเน้นความหรูหรา เช่นเดียวกับปุ่ม JaguarDrive Control ที่จากวัสดุระดับพรีเมี่ยม

ปิดท้ายด้วยระบบอำนวยความสะดวกมาตรฐาน นั้นมากับหน้าจอกลางขนาด 11.4 นิ้ว ระบบสัมผัสสำหรับแสดงผลระบบ Pivi Pro infotainment รุ่นล่าสุด ที่รองรับได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay® และ Android Auto™ รวมถึงระบบปรับอากาศอัตโนมัติเทคโนโลยีนาโน ที่สามารถรับมือได้ในระดับอนุภาค PM2.5

 

CR.NetCarShow.com

Comments are closed.