หลังจากที่ปล่อยเวอร์ชั่น N – Line ที่เลือกนำเสนอความสปอร์ตผ่านรูปลักษณ์ ออกมาสร้างกระแสความตื่นเต้นเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลารูดม่านเปิดฉากส่ง “ตัวจริง” ลงตลาด กับ Hyundai Elantra N ในฐานะยนตรกรรมซีดานสมรรถนะสูงแห่งอนุกรม All New Elantra เป็นรุ่นแรก ที่มีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจาก “สนามแข่ง”
โดยทีเด็ดของ Hyundai Elantra N นั้นอยู่ขุมพลังเบนซินซึ่งมากับพิกัด 2.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศที่เลือกใช้ขนาดใหญ่ ทั้งขึ้น ประกอบกับการเลือกใช้วัสดุที่แข็งแกร่ง ทนทานในส่วนของเครื่องยนต์ จนได้ผลสรุปออกมาเป็นเรี่ยวแรงระดับ 280 แรงม้า ขณะที่แรงบิดสูงสุดนั้นมากับตัวเลข 392 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด คลัทช์คู่ DCT ซึ่งมาพร้อมฟังค์ชั่น N Grin Shift (NGS) สำหรับทำหน้าที่ “บูสต์” พลังเพิ่มอีกราว 10 แรงม้า เป็น 290 แรงม้า
ตามด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการยึดเกาะถนนจากชุดเฟืองท้าย e-LSD – electronic Limited Slip Differential ที่มีชื่อเรียกว่า ระบบ N Corner Carving Differential, การระบายไอเสียจากระบบ Variable Exhaust Valve System และการติดตั้งระบบช่วยออกตัว Launch Control มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับระบบ N Power Shift (NPS) และระบบ N Track Sense Shift (NTS) สำหรับยกระดับความเร้าใจในการขับขี่ การันตีด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ทำได้ถึง 250 กม./ชม.
ตามด้วยส่วนของระบบเบรกซึ่งถูกอัพเกรดให้รองรับกับสมรรถนะที่สูงขึ้น ด้วยการเปลี่ยนจานเป็นขนาด 360 มม. ไปจนถึงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน Integrated Drive Axle (IDA) ที่มีแรงบันดาลใจการพัฒนามาจากตัวแข่งสายลุยแห่ง WRC เช่น ในส่วนของ เพลาขับ (Integrating Drive Shaft) ตลอดจนดุมล้อ และลูกปืนล้อ (Wheel Hub and Bearing) จนได้มาซึ่งความแข็งแกร่ง ภายใต้น้ำหนักที่เบาลงอีกราว 1.7 กก.
ตามด้วยการนำเทคโนโลยี Dual Compound เข้ามาใช้ในระบบช่วงล่างด้านหน้า ขณะที่ด้านหลังรองรับด้วยรูปแบบ Four-Point Strut Rings เสริมระบบ R-MDPS เพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพการควบคุมในส่วนของระบบพวงมาลัยมากขึ้น แถมด้วยความเร้าใจจากฟังค์ชั่น N Sound Equalizer (NSE) ที่มากับพื้นฐาน “เสียง” จากตัวแข่งรุ่น TCR แต่สามารถทำการปรับแต่งโทนเสียงได้ตามสไตล์ความเร้าใจที่แต่ละบุคคลชื่นชอบ ปิดท้ายเรื่องสมรรถนะด้วย “ล้อ และยาง” ที่เติมเต็มอารมณ์การขับขี่ จากขนาดมาตรฐาน คือ 19 นิ้ว พร้อมยาง Michelin PS4S ซีรี่ส์ 245
ว่าด้วยเรื่องรูปลักษณ์งานดีไซน์ภายนอกเน้นความสปอร์ต เริ่มจากด้านหน้าที่มีแรงบันดาลใจมาจาก “หมวกกันน็อค” ของนักแข่ง เสริมด้วยสปอยเลอร์ใต้กันชนในโทนสีแดง N-Exclusive Red Strip เพื่อสร้างความโฉบเฉี่ยว รับกับชุดสเกิร์ตด้านข้าง และด้านหลังที่ประกอบด้วยสปอยเลอร์แบบ Wing Type สำหรับ Hyundai N-Specific เท่านั้น โดยมีด้านล่างเป็นชุด Diffuser ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ พร้อมรายละเอียดที่ชวนให้นึกถึงรถแข่ง Formula 1 เช่น Reflector ทรง 3 เหลี่ยมกลับหัวบริเวณกึ่งกลาง ที่ประกบด้วยชุดท่อไอเสียทรงกลม
ภายในมากับการแสดงฐานะ N-Specific ในส่วนต่างๆ เช่น พวงมาลัย, เกียร์, เบาะนั่ง, กาบบันได และแป้นเหยียบที่ทำจากวัสดุโลหะ แถมมาด้วยความพิเศษจากการออกแบบ ตั้งแต่ “พวงมาลัย” ที่มากับแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift และปุ่ม NGS (สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ DCT) สำหรับเพิ่มพลังบูสต์ 10 แรงม้า เป็นเวลา 20 วินาที ตามด้วยปุ่ม N Buttons จำนวน 2 ตำแหน่ง ให้ตั้งค่าโหมดการขับขี่ที่ต้องการ
อีกทั้ง “เบาะนั่ง“ ยังได้รับการออกแบบให้โอบกระชับสรีระ เพื่อรักษาท่าทางการขับขี่ที่มั่นคงตลอดเวลา ซึ่งหากยังไม่พอก็สามารถเพิ่มเติมออพชั่นเบาะ N Bucket Seat ที่สปอร์ตกว่าได้ ด้วยตำแหน่งติดตั้งที่ต่ำลงจากเบาะมาตรฐาน 10 มม. และมีขนาดที่บางกว่าถึง 50 มม. ขณะเดียวกันชุดหน้าจอ Infotainment ก็มากับฟังค์ชั่นที่เหมาะสมกับความเป็น Hyundai N-Specific ด้วยความสามารถในการแสดงผลอุณหภูมิเครื่องยนต์, น้ำมันเครื่อง, ระดับแรงบิด และอัตราการบูนต์ของระบบอัดอากาศ ไปจนถึงโปรแกรม N Track Map สำหรับจับเวลาต่อรอบ และพฤติกรรมการขับขี่แบบเรียลไทม์อีกด้วย
CR.NetCarShow.com