Gordon Murray T.50s Niki Lauda คือ ผลงานชิ้นแรกของ Gordon Murray นักออกแบบรถชื่อดัง ผู้วึ่งเปลี่ยนบทบาทมาเป็นเจ้าของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สมรรถนะสูง Gordon Murray Automotive พร้อมด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมระดับ Hyper Car รุ่นล่าสุดในชื่อ T50s Niki Lauda ด้วยแรงบันดาลใจในการรำลึกถึง Niki Lauda ตำนานนักแข่ง Formula 1 ที่ทั่วโลกรู้จัก และชัยชนะอันโด่งดังด้วยรถ Brabham BT46B ในรายการ Swedish Grand Prix ปี 1978
สำหรับ Gordon Murray T.50s Niki Lauda นั้นได้รับการพัฒนาจากพื้นฐานของรถแข่ง และปรับแต่งให้เป็นรถที่สามารถใช้งานบนท้องถนนได้ทุกวัน ภายใต้องค์ประกอบสำคัญตั้งแต่โครงสร้างน้ำหนักเบาจากวัสดุ Carbon Fibre Monocoque พร้อมด้วยภายในห้องโดยสารมากับงานดีไซน์ที่ใส่อารมณ์ความเป็นรถแข่งมาแบบเต็มพิกัด กับการวางตำแหน่งเบาะนั่งคนขับไว้ที่กึ่งกลางรถ ประกบด้วยเบาะนั่งผู้โดยสารซ้าย-ขวาในด้านหลัง
ครอบทับด้วยตัวถังที่สร้างขึ้นจากหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูงที่สร้างแรงกด Downforce ได้มากถึงราวๆ 1,500 กก. จากชุดสปอยเลอร์ Delta Wing ด้านหลังขนาดกว้างถึง 1,758 มม. ซึ่งมีแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรถแข่ง Formula 1 รุ่น Murray’s Brabham BT52 ปี 1983 ตามด้วย Splitter ด้านหน้าแบบ Aerofoil ที่สร้างแรงกดด้านหน้าให้มีความสมดุลย์กับด้านหลัง ตลอดจนครีบรีดอากาศด้านบนหลังคาที่วางแนวยาวเชื่อมต่อกับชุดสปอยเลอร์ Delta Wing
Gordon Murray T.50s Niki Lauda จะมากับการผลิตในรูปแบบ Limited Edition เพียงแค่ 25 คันเท่านั้น แต่นั่นยังไม่ใช่ประเด็นที่น่าสนใจเท่ากับ “สมรรถนะ” ที่เกิดขึ้นภายใต้น้ำหนักตัวที่เบาเพียง 852 กก. ซึ่งขับเคลื่อนด้วยขุมพลังที่ปรับแต่งมาจาก Cosworth บนพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 3.9 ลิตร ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 725 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดระดับ 485 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Xtrac พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle-Shift
ขณะที่ระบบช่วงล่างนั้นมากับชุดดับเบิ้ลวิชโบนทั้งด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมการลดน้ำหนักด้วยวัสดุอลูมิเนียม ตลอดจนการปรับเซ็ทค่าสปริง, โช๊คอัพ และเหล็กกันโคลงใหม่ โดยเน้นไปที่ความสามารถบนสนามเป็นหลัก ทั้งยังทำการลดความสูงลง 87 มม. ในด้านหน้า และ 116 มม. ในด้านหลัง ตามด้วยการปรับเซ็ทอัตราทดระบบพวงมาลัยแร็คแอนด์พิเนี่ยนใหม่ ให้ตอบสนองได้เฉียบคมเหมาะสมกับสมรรถนะระดับรถแข่ง
ภายใต้ความมั่นใจจากระบบเบรกคาร์บอน เซรามิคขนาด 370×34 มม. ในด้านหน้าจับคู่กับชุดคาลิปเปอร์ 6 Pot และขนาด 340×34 มม. ในด้านหลัง ที่คู่กับคาลิปเปอร์ 4 Pot ครอบทับด้วยล้อแม็กนีเซียมน้ำหนักเบาระดับรถแข่ง Formula 1 ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง Michelin Slick ขนาด 25/64 ด้านหน้า และขนาด 30/68 ในด้านหลัง
CR.NetCarShow.com