เอาจริงๆ … ถึงแม้จะ “มีหรือไม่มี” โอกาสกดคันเร่งให้สุดความเร็วที่ 304.773 ไมล์/ชั่วโมงหรือราวๆ 490.484 กม./ชม. ก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่ามหาเศรษฐีทั่วโลก “พร้อมมาก” ที่จะควักเงินจ่ายเพื่อเป็นเจ้าของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ยนตรกรรมที่ต้นสังกัดการันตีว่าเป็น Production Hyper Sports Car ที่เร็วที่สุดเท่าที่ Bugatti เคยสร้าง ทั้งยังมาพร้อมกับความพิเศษสุดๆ แบบ Special Edition เพราะจำนวนผลิตทั้งหมดถูกกำหนดไว้แล้วเแค่ 30 คันเท่านั้น
การถือกำเนิดของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ … แค่ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าใช้พื้นฐานจากโมเดล Chiron มาทำการอัพเกรดขึ้นใหม่ ซึ่งประกอบด้วยตัวถังที่เลือกใช้โทนสีดำ Jet Black ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ตัดสลับด้วยความโดดเด่นจากโทนสีส้ม Jet Orange พร้อมทั้งยังมีการปรับรายละเอียดรูปลักษณ์ใหม่ ตลอดจนเพิ่มความยาวประมาณ 25 ซม. ในส่วนของด้านท้ายในสไตล์ที่เรียกว่า Longtail
ไปจนถึงล้อที่ทำจากวัสดุแม็กนีเซียมน้ำหนักเบาโทนสีเข้มที่เรียกว่า Nocturne และทั้งหมดได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ ให้ดีขึ้นอีกราว 40% โดยเฉพาะกับการสร้างแรงกด Downforce บนความเร็วสูงระดับ 420 กม./ชม.
ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเพิ่มความน่าสนใจให้กับรายละเอียดต่างๆ เช่น โลโก้ด้านหน้ารถที่เปลี่ยนไปใช้โทนสีเงินสลับดำ สำหรับโมเดลเท่านั้น, ฝาครอบเครื่องยนต์โทนสีดำ ตลอดจนก้านปัดน้ำฝนก็ยังทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แล้วก็ยังมีระบบไฟ Welcome Light แบบ LED บริเวณมือจับเปิดประตู ที่ส่องสว่างลงพื้นออกมาเป็นคำว่า Super Sport 300 + อีกด้วย
ด้านในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุใหม่ โดยคุมโทนสีไว้ในแนวทางเดียวกับภายนอก เช่น วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์โทนสีดำ Black Carbon, วัสดุหนัง Alcantara โทนสีดำ Beluga Black ตัดด้วยโทนสีส้ม Jet Orange เช่น อักษร Super Sport 300 + บนกาบบันไดคาร์บอน, บนพนักพิงศรีษะ และบนแผ่นรองหัวเข่าบริเวณคอนโซลกลาง ไปจนถึงการเดินด้ายคู่ด้วยโทนสีส้ม Jet Orange เสริมด้วยการเคลือบสีดำ Black Anodised ให้กับพื้นผิวบางจุด และการใช้สีดำ Beluga Black ในส่วนของกระจกมองหลัง
ขุมพลังของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ นั้นไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมามากนัก นอกจากการยืนพื้นด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 8 ลิตร แบบ W16 ที่สร้างกำลังได้มากกว่าเดิมอีกราว 100 แรงม้า ทำให้เบ็ดเสร็จแล้วมีกำลังสูงสุด คือ ระดับ 1,600 แรงม้า ส่วนสมรรถนะอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งบอกเลยไม่เท่าไหร่ เพราะไฮไลต์สุดเร้าใจก็ต้องยกให้กับความเร็วสูงสุดที่ว่ากันในระดับ 490.484 กม./ชม. เลยทีเดียว
CR.NetCarShow.com