ด้วยสภาพเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน เราเดาว่าหลายครัวเรือนน่าจะวางโปรแกรมการ “ใช้เงิน” กันเป็นอย่างดีในทุกๆ เรื่อง ซึ่งก็คงจะรวมไปถึงเรื่องของเลือกเป็นเจ้าของยนตรกรรมใหม่ซักรุ่นโดยเฉพาะในกลุ่มของรถครอบครัวแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (Compact MPV) ซึ่งแต่ละค่ายต่างก็เข็นโปรดักส์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด พร้อมการนำเสนอจุดเด่นต่างๆ มากมาย
ชนิดที่เราเดาว่าน่าจะทำเอาหลายคนเจอปัญหา “เลือกไม่ถูก” เหมือนกัน ด้วยเพราะทั้งคุณสมบัติ และออพชั่นต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้าง “ใกล้เคียง” กันมาก … แต่แล้ว บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ก็ก้าวเข้ามาทำให้ “การเลือก” เป็นเรื่องง่ายขึ้น
จากการมาถึงของยนตรกรรม 3 แถว 7 ที่นั่ง (Compact MPV) ในชื่อ All New Toyota Veloz ซึ่งมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ รุ่น Smart ราคา 795,000 บาท และรุ่น Premium ตัวท็อปสุดกับราคา 875,000 บาท ที่เราจะไปทดลองขับกัน แต่ก่อนจะลงถนนจริง ลองมาชมกันก่อนว่า “อะไร .?” คือ สิ่งที่ทำให้ All New Toyota Veloz กลายเป็นยนตรกรรมกระแสแรงได้ในชั่วข้ามคืน
อันดัแรกว่ากันด้วยเรื่องของรูปลักษณ์งานดีไซน์ ซึ่งมากับสไตล์ Premium Crossover ที่น่าดึงดูด เช่น มุมมองด้านหน้าที่มีชุดกระจังโดดเด่นขนาดใหญ่ ประกบด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED และการติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องเพื่อตอกย้ำความ Crossover รับกับล้อขนาด 17 นิ้ว และซุ้มล้อขนาดใหญ่ที่ให้อารมณ์แบบ SUV ส่วนการออกแบบด้านหลัง เลือกใช้งานดีไซน์เส้นยาวแนวนอนไปจนถึงชุดไฟท้ายทั้งสองฝั่ง เพื่อเพิ่มความรู้สึกเฉียบคม ก่อนเสริมความพรีเมี่ยมมากขึ้น ด้วยแนวเส้นขอบโครเมียมตั้งแต่ด้านหน้าตัวรถ ยาวไปจนถึงด้านหลัง
ภายในห้องโดยสารผสมผสานด้วยสไตล์พรีเมี่ยม และการเน้นย้ำความอเนกประสงค์ เพื่อตอบโจทย์หลากหลายวัตถุประสงค์การใช้งาน รวมถึงสร้างความสบายแก่ผู้โดยสารในทุกที่นั่ง เช่น ระยะห่างระหว่างที่นั่งผู้โดยสารในแถวที่ 1 และแถวที่ 2 มีขนาดเทียบเท่ากับรถใน C-segment ขณะที่เบาะแถว 2 สามารถเลื่อนได้ถึง 240 มิลลิเมตร และแถวที่ 3 ก็มีความกว้างถึง 700 มม. ทั้งยังปรับพับเบาะได้ 7 รูปแบบ
พร้อมออพชั่นมาตรฐานที่ให้มาอย่างครบครัน ตั้งแต่ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับได้ 4 ทิศทาง, มาตรวัดเรืองแสง พร้อมหน้าสีสำหรับจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว ปรับได้ 4 รูปแบบ, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth ตลอดจนจุดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) พร้อมช่องเสียบ USB 4 ตำแหน่ง, ระบบ Smart Entry และ Push Start ไปจนถึงกุญแจ Remote พร้อมระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบเบรกมือไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ
ขุมพลังของ All New Toyota Veloz มากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Dual VVT-i ให้กำลังรวมอยู่ที่ 106 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่เหมาะสมกับ Platform ขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่ ผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Normal, Eco และ Power ซึ่งสามารถเลือกเปิดใช้ทั้งโหมด Eco และ Power ได้พร้อมกัน
โดยหลังจากที่ได้ลองสัมผัสในการเบื้องต้น ต้องบอกว่า All New Toyota Veloz มากับบุคลิกที่ให้ความ “เป็นกลาง” อย่างเด่นชัด เข้าถึงได้ง่าย และให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ได้ดี โดยเฉพาะในเรื่องของขุมพลังที่เหมาะสมกับการตอบโจทย์อย่างลงตัว ตามฐานะของรถครอบครัว ที่ใช้คันเร่งอย่างนิ่มนวล ตามสไตล์ของระบบส่งกำลังซึ่งเป็น CVT
ฉะนั้นเรื่องอารมณ์ความสปอร์ตจึงถือเป็น “ประเด็นรอง” ที่อาจจะพอมีให้ได้สัมผัสบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก แค่สร้างความเร้าใจได้ประมาณหนึ่ง กับช่วงจังหวะอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง หรือ การเร่งแซง ส่วนหนึ่งต้องเข้าใจจุดยืนของตัวรถ, เครื่องยนต์, และระบบส่งกำลัง ที่ประกอบกันเป็นบุคคลิกของยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว
เพราะงั้น “ความสบาย” ในการขับขี่จึงเป็นสิ่งที่ชัดเจนมากที่สุดในการทดลองขับ ทั้งจากทัศนวิสัยที่ดีงาม จากความสูงของตัวรถ ตลอดจนความมั่นใจที่เกิดขึ้นจากพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) และระบบช่วงล่างใหม่ ด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ไปจนถึงดิสก์เบรกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
โดยภาพรวมของช่วงล่างถือว่ามีการปรับเซ็ทมาลงตัวดีทีเดียว ทั้งความนุ่มนวลที่มีให้สัมผัสในช่วงความเร็วต่ำ และจะแปรผันไปเป็นการยึดเกาะถนน รวมกับการทรงตัวที่ดีบนความเร็วสูง ซึ่งจะชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเข้าโค้ง เช่นเดียวกับการตอบสนองอันเฉียบคมของพวงมาลัยที่แปรผันน้ำหนักไปตามความเร็วที่ใช้ ทำให้ในทุก องศาโค้ง คุณจะรู้สึกได้ถึงความสนุก และปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน เหนืออื่นใดสิ่งที่จะได้มาด้วย ก็คือ ความประหยัดเชื้อเพลิงที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจปัจจุบัน ด้วยตัวเลขที่โรงงานเคลมไว้ 17.9 กม./ลิตร
พูดถึงความมั่นใจในการขับขี่ อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้ ก็คือระบบความปลอดภัยมาตรฐานในชื่อ Toyota Safety Sense ซึ่ง All New Toyota Veloz ถูกติดตั้งมาให้ในแบบที่ “คู่แข่ง” ต้องกลับมาพิจารณาตัวเองเลยทีเดียว ไล่เรียงมาตั้งแต่ ระบบ Active และ Passaive Safety ที่ประกอบด้วย ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง, กล้องมองรอบคัน, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor), สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal), ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-start Assist Control)
โดยนอกจากฟังค์ชั่นความปลอดภัยมาตรฐานแล้ว All New Toyota Veloz ยังถูกยกระดับให้เหนือกว่า “คู่แข่ง” อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ด้วยการอัพเกรดระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ให้ล้ำสมัยขึ้นไปอีกขั้น ประกอบด้วยระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert (LDA) With Steering Assist), ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert) และระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control)