ภายนอกดูจะมีรูปร่างใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่คาดว่าน่าจะเปลี่ยนบอดี้ครอบกระดองใหม่โดยใช้ แชสซีเดิม
มีการปรับเปลี่ยนเส้นสายฝากระโปรงหน้าใหม่ดูมีมิติและทันสมัยกว่าเดิม ไม่ใช่แบบแบนราบไปกับตัวถังเหมือนรุ่นปัจจุบันชุดไฟหน้า Projector Lens แบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ทันสมัยหรูหราขึ้น กระจังหน้าแบบสีดำเงาตัดกับเส้นโครเมียม จุดเด่นที่ชมชอบมากที่สุดคือไฟท้ายที่แบบ LED พร้อมไฟหรี่ LED Light Guiding ซึ่งนับว่าเป็นกระบะเจ้าแรกในประเทศไทยที่ให้ไฟท้ายLED ดีไซน์สวยงามลงตัวอีก
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมดีไซน์ใหม่สีทูโทน วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีดำเงา Piano Black หัวเกียร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา เป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ Sequential Shift พร้อม Manual Mode + – มีระบบล็อคเฟืองท้าย Rear Diff-Lock พร้อมปุ่มปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Shift-on-fly ระบบช่วยลงจากทางลาดชัน HDC เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า – ด้านหลัง ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone มาตรวัดเรืองแสง Optitron หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT เครื่องเสียงหน้าจอระบบTouchscreen รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
สำหรับเครื่องยนต์ของ All New Isuzu D-max คาดว่าน่าจะยังคงใช้เครื่องยนต์บล็อคเดิมจากรุ่นก่อนหน้า ทั้ง 2 เครื่องยนต์ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนและอัพเกรดชิ้นส่วนต่างๆรวมถึงจูนนิ่งใหม่ ทำให้ได้พละกำลังที่สูงขึ้น แรงขึ้น กว่ารุ่นก่อนหน้า รวมถึงมีการปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ ซึ่ง Isuzu D-max รุ่นปัจจุบัน มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ดีเซล 1.9 VGS Turbo เครื่องยนต์ดีเซล รหัส RZ4E-TC ขนาด 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ดีเซล 3.0 VGS Turbo เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4JJ1-TCX ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อม Turbocharger VGS แบบครีบแปรผัน และ Intercooler กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
นี้คือข้อมูลคร่าวๆก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ตุลาคม 2019 นี้ เรารอลุ้นไปพร้อมๆกันว่า All New Isuzu D-Max จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง ราคาจะออกมาเท่าไหร่ ดีไซน์สวยสมกับการรอคอยถึง 9 ปี หรือไม่ รู้กันเร็วๆนี้
