เรียกได้ว่าค่าย Alfa Romeo ยังคงพยายามสรรหา “ของใหม่” ที่น่าตื่นเต้นมานำเสนอบรรดาสาวกอยู่เสมอ ดังจะเห็นว่าที่ผ่านมานั้นมีตั้งแต่ความพิเศษสุดๆ แบบ Special Edition ในสไตล์ 6C Villa d’Este ซึ่งหยิบเอาทั้งGiulia และ Stelvio มาสร้างสรรค์ใหม่ โดยการผสมผสานแรงบันดาลจากอดีตของยนตรกรรมยุค 40 เพื่อเอาใจลูกค้าฝั่งตลาดยุโรป ไปจนถึงการข่าวคราว และการโชว์ตัวของยนตรกรรมใหม่สายล้ำสไตล์ Crossover อย่าง Alfa Romeo Tonale ก็ตาม
ล่าสุด Alfa Romeoก็ยังคงนำเอาทั้ง Stelvio และ Giulia กลับมาอัพเกรดใหม่ในฐานะโมเดลแห่งปี 2022 ซึ่งในฝั่งของ Alfa Romeo Giulia นั้นมีการปรับชื่อรุ่นย่อยใหม่จาก Ti Sport มาเป็น Veloce พร้อมด้วยการติดตั้งออพชั่นด้านระบบความปลอดภัยมาให้แบบครบครัน เช่น ระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems), ระบบเตือนจุดอับสายตา Blind-Spot Assist, ระบบนำทางอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control, ระบบเตือนการออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High-Beam Headlamps ตลอดจนเซ็นเซอร์ช่วยจอดทั้งด้านหน้า และด้านหลัง Front and Rear Park Sensors
รวมไปถึงการเพิ่มในส่วนของออพชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย เช่น ระบบทำความร้อนเบาะนั่งด้านหลัง, ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charging ไปจนถึงระบบปรับอากาศที่มีคุณภาพมากขึ้น และระบบนำทางที่อัพเกรดใหม่ ส่วนรายละเอียดภายนอกนั้นมีการเพิ่มความดุดันเล็กน้อยด้วยให้กับรุ่นย่อย Sprint, Veloce และ Quadrifoglio จากชุดกระจังหน้าโทนสีเข้ม เสริมด้วยชุดไฟหน้าแบบ Adaptive Bi-Xenon มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ทางด้านยนตรกรรมอเนกประสงค์ SUV อย่าง Stelvio ก็มีรุ่นย่อยกันมาให้เลือกถึง 4 สไตล์ คือ Sprint, Ti, Veloce และ Quadrifoglio โดยไฮไลต์ก็คือ อุปกรณ์ความสะดวกสบายที่จัดมาให้ในทุกรุ่น เช่น ระบบทำความร้อนเบาะนั่งทั้งด้านหน้า และด้านหลัง แถมในรุ่นย่อย Sprint และ Veloce ยังมากับความสปอร์ตที่มากขึ้นด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ที่ทำจากวัสดุอลูมิเนียมอีกด้วย
สำหรับขุมพลังของทั้ง Giulia และ Stelvio นั้นมีการยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งนั่นหมายถึงAlfa Romeo ยังคงเดินหน้าใช้เครื่องยนต์เบนซินบล็อกเดิม ในพิกัดขนาด 2.9 ลิตร แบบ V6 เสริมระบบอัดอากาศ Twin Turbo ที่มีเรี่ยวแรงให้ใช้ 505 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร