New MG3 Hybrid+ มากับคอนเซ็ปต์ “อิสระพลัสเวล” ยนตรกรรมที่พลัสมาให้ครบ แรง, ขับสนุก,ประหยัดเหนือชั้น และล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ Hybrid+ ที่ผสมผสานการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูง และสมบูรณ์แบบในทุกสภาวะการขับขี่ ทั้งระบบขับเคลื่อนแบบอนุกรม (Series Hybrid), ระบบขับเคลื่อนแบบผสานเครื่องยนต์ และมอเตอร์ (Parallel Hybrid) หรือแม้แต่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน (Pure EV)
New MG3 Hybrid+ มีหัวใจหลักอยู่ที่เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) และมอเตอร์ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium-Ion ความจุ 1.83 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สร้างกำลังสูงสุดอยู่ที่ 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ไฟฟ้า Hybrid Transmission แบบ E-AT พร้อมโหมดควบคุมการขับขี่ที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 3 รูปแบบ คือ Eco, Standard และ Sport ทั้งยังมีระบบ KERS เหมือนในรถไฟฟ้า ที่สามารถปรับการใช้งานได้ถึง 3 ระดับ มอบสมรรถนะเร้าใจด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 8 วินาที ทั้งยังการันตีว่าน้ำมันหนึ่งสามารถไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร อีกด้วย
New MG3 Hybrid+ มากับงานออกแบบที่เน้นความปราดเปรียวในสไตล์ Hatchback เสริมความโดดเด่นด้วยดีไซน์ไฟหน้า LED แบบใหม่ที่เรียกว่า Hunter Eye Headlamp (ดวงตานักล่า) พร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ โดยมีไฟท้ายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปีกผีเสื้อ เพื่อสะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว
ส่วนภายในห้องโดยสารมากับแนวคิด Modular Concept ให้ความสำคัญกับวัสดุคุณภาพสูง เพิ่มความหรูหราด้วยภายในทูโทน (ขาวสลับดำ) และการออกแบบให้โดดเด่นในเรื่องพื้นที่เหนือศีรษะ (Head room) และพื้นที่วางขา (Leg room) รวมไปถึงห้องเก็บสัมภาระที่มีความจุถึง 293 ลิตร และขยายเป็น 1,037 ลิตร เมื่อพับเบาะ ตลอดจนออพชั่นล้ำสมัยที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ภายใต้ราคาเร้าใจ เริ่มต้นเพียง 579,900 บาทเท่านั้น