Pagani Huayra R คือ Hyper Car ต่อยอดจากรุ่นพื้นฐานของ Pagani Huayra ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสุดยอดเช่นเดียวกับที่เคยปรากฏใน Pagani Zonda ที่เดินหน้าสู่ความเป็นที่สุดด้วยรุ่น Zonda R ที่ Pagani Automobili ได้นำเสนอการใช้วัสดุล้ำสมัยทั้งจากอุตสาหกรรมการบิน และอวกาศ ตลอดจนจากสนามแข่งรถ Formula 1 รวมไปถึง Huayra R เองที่ยังคงได้รับแรงบันดาลใจมาจากวงการมอเตอร์สปอร์ต และการผสมผสานด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นกัน
โดยเฉพาะในเรื่องของขุมพลังที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน พิกัด 6 ลิตร แบบ V12 ไร้ระบบอัดอากาศ พร้อมระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection แรงดันระดับ 200 บาร์ อันเป็นผลผลิตจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Pagani Automobili และ HWA AG บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของรถแข่งแห่ง Mercedes-AMG จนได้เครื่องยนต์ V12 ที่เบาที่สุด, ทรงพลังที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยพละกำลังระดับ 850 แรงม้า ที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดระดับ 750 นิวตันเมตร ที่ 5,500 – 8,300 รอบต่อนาที พร้อมความสามารถในการลากไปได้ถึงราวๆ 9,000 รอบต่อนาที รับหน้าที่ส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Sequential ที่ออกแบบ และพัฒนามาให้เหมาะสมกับบุคลิกของ Huayra R ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลงานร่วมกันระหว่าง Pagani Automobili และ HWA AG เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของสุ้มเสียง ซึ่งเกิดจากการพัฒนา และออกแบบระบบไอเสียใหม่ สำหรับ Huayra R โดยเฉพาะ ด้วยการใช้วัสดุในการผลิตเป็นโลหะผสม Inconel ที่มีความหนามากกว่ารถปกติที่ใช้ทั่วไป รวมถึงการกำหนดให้ความยาวของท่อไอเสียมีความเท่ากันทั้ง 12 สูบ เพื่อสร้างเสียงคำรามให้เหมือนกับรถ Formula 1 จากยุคอดีต ทั้งยังสามารถควบคุมความดังเสียงได้ให้ลดลงได้ตามข้อจำกัดของ FIA คือ 110 เดซิเบล สำหรับสนามที่มีกรณีการจำกัดเสียง
ระบบช่วงล่างของ Huayra R ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจาก Zonda R โดยสร้างขึ้นจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ บนพื้นฐานแบบอิสระดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมสปริง และโช๊คอัพแบบ Active ที่ปรับได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามมาด้วยในส่วนของระบบเบรกที่ยกหน้าที่ให้กับแบรนด์ Brembo เลือกใช้แบบคาร์บอน เซรามิค CCM-R ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยมีจานเบรกด้านหน้าที่มากับขนาด 410×38 มม. และด้านหลังที่มากับขนาด 390×34 มม. จับคู่กับคาลิปเปอร์แบบ 6 Pot ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ครอบทับด้วยล้ออัลลอยด์ APP น้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยาง Pirelli P Zero ด้านหน้าซีรี่ส์ 275/675 R19 และด้านหลังซีรี่ส์ 325/705 R19
ในส่วนของโครงสร้างตัวถังซึ่งเป็นแบบ Monocoque นั้นได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้ครอบครองได้สิ้มรสประสบการณ์การขับขี่แบบรถแข่งอย่างเต็มอรรถรส ประกอบด้วยวัสดุ Carbo-Titanium HP62-G2 และ Carbo-Triax HP62 ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น 51% และทนทานต่อแรงบิดได้สูงขึ้นราว 16% จนได้น้ำหนักตัวถังโดยรวมเพียงแค่ 1,050 กก.
ขณะที่รูปลักษณ์นั้นมากับความเหนือชั้นด้านอากาศพลศาสตร์ ที่สามารถสร้างแรงกด Downforce ได้สูงสุดถึงราว 1,000 กก. ที่ความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. จากส่วนประกอบสำคัญ เช่น ช่องดักอากาศด้านหน้าดีไซน์ใหม่ทั้ง 2 ฝั่ง ต่อเนื่องด้วยช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงหน้า, ด้านบนของซุ้มล้อ, ด้านข้างตัวรถ ไปจนถึงช่องดักอากาศ Roof Scoop แบบใหม่บนหลังคาที่มาพร้อมครีบกึ่งกลาง ไล่ไปจนถึง สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ และ Diffuser กันชนหลัง ทั้งหมดก็เพื่อทำหน้าที่ช่วยให้อากาศถูกลำเลียงไปยังด้านหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านภายในห้องโดยสารได้รับการติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ขณะที่เบาะนั่งซึ่งออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของตัวถังแบบ Monocoque นั้นมาพร้อมกับเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด และการหุ้มด้วยวัสดุทนไฟ Nomex ทั้งยังมากับแผ่นรองโฟมแบบพิเศษของ Ener-Core EC 50 ที่ผ่านการรับรองจาก FIA เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับด้วยการปรับให้เข้ากับรูปร่างในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการขับขี่ โดยมีพนักพิงศีรษะที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมส่วนการป้องกันด้านข้างโดยเฉพาะ
CR.NetCarShow.com