จำนวนการผลิตที่มีเพียง 60 คัน คือ ความทรงคุณค่าของ Bugatti Chiron Pur Sport ที่สุดแห่งยนตรกรรมสมรรถนะสูงรุ่นพิเศษ ที่อัพเกรดขึ้นใหม่จากพื้นฐานของ Bugatti Chiron โดยความเปลี่ยนแปลงหลักๆ นั้นอยู่ที่การเพิ่มขีดความสามารถด้านอากาศพลศาสตร์ เช่น กระจังหน้าทรงเกือกม้า (Horseshoe) ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่นเดียวกับ ช่องดักอากาศที่ประกบอยู่ด้านข้าง ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวรถดูกว้างขึ้นแล้วยังช่วยเพิ่มแรงกด Downforce ได้สูงกว่ารุ่นมาตรฐาน
ขณะที่ด้านข้างตัวรถนั้นมีการเสริมชุดสเกิร์ตที่ช่วยเพิ่มความเตี้ยให้กับตัวรถ โดยมีด้านหลังที่ “โหด” กว่าเดิม ด้วยชุดสปอยเลอร์หลังทรงสูงที่มีขนาดยาวถึง 1.90 เมตร สำหรับสร้างแรงกด Downforce ให้กับด้านหลัง จากนั้นรองรับการไหล่ผ่านของอากาศด้วยชุด Diffuser ทรงดุใต้ชุดกันชนหลัง ซึ่งทั้งหมดมีแรงบันดาลใจ และหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นมาจากวางการมอเตอร์สปอร์ต โดยนอกจากงานดีไซน์ที่เน้นวัสดุคาร์บอนเพื่อลดน้ำหนักแล้ว ระบบไอเสียยังได้รับการเปลี่ยนวัสดุใหม่เป็นแบบไททาเนียม ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี 3D Printed ที่มีความทนทานต่อความร้อนสูงได้ดีอีกด้วยส่วนภายในนั้นอัพเกรดเบาๆ เช่นการเปลี่ยนวัสดุ และส่วนใหญ่เลือกใช้เป็น Alcantara, อลูมิเนียน และไททาเนียม โดยมีจุดประสงค์สำคัญ คือ เรื่องของการ ลดน้ำหนัก
ว่ากันที่สมรรถนะของBugatti Chiron Pur Sport ที่ยังคงมีแหล่งกำเนิดมาจากเครื่องยนต์เบนซินบล็อคใหญ่แบบ W16 ความจุ 8.0 ลิตร อัดอากาศด้วย Turbocharged ถึง 4 ตัว เพื่อสร้างเรี่ยวแรงมหาศาลถึง 1,500 แรงม้า และแรงบิด 1,600 นิวตันเมตร พร้อมด้วยการเพิ่มรอบเครื่องยนต์ขึ้นไปอีก 200 รอบต่อนาที ทำให้มีเพดานรอบเครื่องยนต์สูงสุดถึง 6,900 รอบต่อนาที และตามด้วยการอัพเกรดระบบส่งกำลังใหม่ด้วยการขยับอัตราทดเกียร์ให้ชิดขึ้นอีกราว 15% เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดกำลังอย่างต่อเนื่อง จนเกิดผลลัพธ์ในช่วงความเร็ว 60-120 กม./ชม. ที่เร็วขึ้นอีกประมาณ 2 วินาทีจากรุ่นมาตรฐาน ส่วนความเร็วสูงสุดนั้นตอกตัวเลขเอาไว้ที่ 350 กม./ชม.
ด้านโครงสร้างแชวซีร์ และระบบช่วงล่างนั้นปรับแต่งใหม่ ซึ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้ชุดสปริงด้านหน้า 65% และด้านหลัง 33% ตลอดจนระบบ Adaptive Damping Control ที่เซ็ทอัพให้เหมาะสมกับสมรรถนะ ที่รวมถึงการปรับแต่งมุมแคมเบอร์ใหม่ที่มีค่าลบ 2.5 องศา และตามด้วยการเสริมด้วยเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้า และหลังที่สร้างขึ้นจากคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อให้เกิดอาการโคลงน้อยที่สุด โดยผลลัพธ์ก็คือ ความมั่นคงของทั้งตัวถัง และช่วงล่างที่เพิ่มขึ้น 130% ในด้านหน้า และ 77% ในด้านหลัง
นอกจากนี้ Bugatti Chiron Pur Sportยังได้รับการออกแบบล้ออัลลอยด์ใหม่ที่มีน้ำหนักเบาขึ้น ซึ่งช่วยลดน้ำหนักใต้สปริงสูงสุดได้ถึง 16 กก. และจะมาพร้อมกับยางที่ดีไซน์ขึ้นเป็นพิเศษจากฝีมือของ Bugatti ที่ร่วมกับแบรนด์ Michelin สร้างขึ้นเพื่อ Bugatti โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นรุ่น Sport Cup 2 R ที่มีขนาด 285/30 R20 ในด้านหน้า และขนาด355/25 R21 ในด้านหลัง ที่ช่วยเพิ่มความสามารถการทำความเร็วขณะอยู่ในโค้งได้เพิ่มขึ้นอีกราว 10%
CR. NetCarShow.com
