เพราะการเป็นเจ้าของรถ ไม่ได้เป็นเพียงการใช้รถเพื่อขับขี่ในชีวิตประจำวัน แต่ยังรวมถึงประสบการณ์อื่นๆ ที่ตามมาพร้อมการครอบครองรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ การเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ หรือค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อการบำรุงรักษารถยนต์ ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ต่างหันมาให้ความสำคัญกับการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ดีที่สุดในทุกมิติ
จากรายงานของ Brandwatch เกี่ยวกับเทรนด์ของผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ นอกเหนือจากกระแสด้านความยั่งยืนและยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือเทคโนโลยีใหม่ๆในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังมาแรง คุณภาพ ความคุ้มค่า และการบริการที่เป็นมิตร คือปัจจัยสำคัญ 3 อันดับแรกที่ผู้บริโภคในปัจจุบันต่างคาดหวังจากแบรนด์รถยนต์
แนวโน้มดังกล่าว ตรงกับข้อมูลที่ฟอร์ดได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรม ความคาดหวัง และความต้องการของเจ้าของรถในเชิงลึก และได้พัฒนา ‘ฟอร์ด การันตี ความใส่ใจ’ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าฟอร์ด
คุณภาพ
นิยามของ ‘คุณภาพ’ อาจมีความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพในการออกแบบ สมรรถนะ นวัตกรรมของสินค้าหรือบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล
ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกของฟอร์ด รถฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทุกคันจึงได้รับการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย ควบคุมการทำงานด้วยหุ่นยนต์และระบบคอมพิวเตอร์ ฟอร์ดตรวจสอบคุณภาพตัวถังและวัสดุที่ใช้ให้เป็นไปตามมาตรฐานด้วยเครื่องวัดสามมิติความละเอียดสูง และใช้คลื่นอัลตราโซนิคตรวจสอบคุณภาพของจุดเชื่อมบนตัวถัง พ่นสีด้วยระบบอัตโนมัติและตรวจสอบคุณภาพโดยละเอียด ตลอดจนทดสอบเสถียรภาพและการควบคุมรถโดยพนักงานชำนาญการ จำลองการใช้งานบนสภาพถนนต่างๆ เสมือนการขับขี่จริง เพื่อส่งมอบรถยนต์ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
นอกจากนี้ ฟอร์ดยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพงานบริการอย่างต่อเนื่อง ด้วยการติดตามความพึงพอใจของเจ้าของรถผ่านโปรแกรมควิกทัช ด้วยการโทรติดตาม สอบถาม และรับฟังข้อเสนอแนะของลูกค้าที่มีต่อการให้บริการของศูนย์บริการทุกครั้งที่เข้ารับบริการ
ความคุ้มค่า
ฟอร์ดให้ความสำคัญต่อความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของรถยนต์ฟอร์ด ด้วยหลากหลายบริการที่ช่วยให้เจ้าของรถสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่โปร่งใสชัดเจน (Capped Price Service Cost)* ตลอดระยะเวลา 5 ปี ซึ่งลูกค้าฟอร์ดสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ได้ดียิ่งขึ้นด้วยการเลือกซื้อโปรแกรมตรวจเช็กระยะล่วงหน้า เพื่อลดความกังวลเรื่องค่าอะไหล่และค่าแรงที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ด้วยราคาที่ประหยัดสูงสุดถึง 21%
นอกจากนี้ลูกค้าฟอร์ดจะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้นด้วยตารางการเข้ารับบริการทุกๆ 12 เดือน หรือ 15,000 กม (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ด้วยคูปองฟรีค่าแรงในการเช็กระยะ 5 ครั้งแรก* นอกจากนี้ ฟอร์ด เอนชัวร์* ประกันภัยชั้น 1 ที่ให้บริการโดยบริษัทประกันชั้นนำ ยังให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า โดยคุ้มครองการโจรกรรมทรัพย์สินส่วนบุคคลภายในรถสูงสุดถึง 20,000 บาท โดยลูกค้าสามารถนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการตัวถังและสีที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากฟอร์ดทั่วประเทศ โดยรับประกันการซ่อมสี 1 ปีไม่จำกัดระยะทาง และสามารถต่ออายุได้ถึง 7 ปี เพื่อความคุ้มค่าสูงสุดในการเป็นเจ้าของรถฟอร์ด
ประสบการณ์อันยอดเยี่ยม
แม้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปเพียงใด แต่บริการที่เป็นมิตร การเอาใจใส่ดูแลลูกค้าอย่างจริงใจ ก็ยังเป็นสิ่งที่เจ้าของรถในยุคดิจิทัลทั่วโลกมองหา จากผลสำรวจของ Brandwatch กว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญต่อประสบการณ์ที่ได้รับตลอดการเป็นเจ้าของรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เจ้าของรถต้องการคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือ
ด้วย ‘ฟอร์ด การันตี ความใส่ใจ’ ฟอร์ดมุ่งมั่นพัฒนาบริการเพื่อสร้างความไว้วางใจในระยะยาวให้กับลูกค้าฟอร์ดทุกคน ด้วยแนวคิดของการเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงใส่ใจในทุกรายละเอียดที่มีผลต่อประสบการณ์ของลูกค้า ล่าสุด ฟอร์ดได้เปิดตัวหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ใหม่ 4 หลัก โทร. 1383 ให้ลูกค้าฟอร์ดทั่วประเทศติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ฟอร์ด (Ford Call Center) เพื่อรับบริการจากฟอร์ดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดได้อย่างสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่ทีมค้นหาและช่วยเหลือ สามารถสืบค้นข้อมูลบนโลกออนไลน์และให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้ทันทีผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ฟอร์ดสามารถดูแลลูกค้าด้วยความใส่ใจได้ในหลากหลายช่องทางทุกช่วงเวลา ตรงกับความต้องการของเจ้าของรถในปัจจุบัน
