ปิด Traction Control แล้วขับเร็วขึ้น จริงไหม?

0

สมัยนี้ในรถยนต์หลายๆ รุ่น จะติดตั้งระบบ Traction Control มาให้จากโรงงาน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในเรื่องของความปลอดภัยในขณะขับขี่ ซึ่งหลายคนมีความสงสัยว่า แล้วถ้าเราเลือกที่จะ “ปิด” หรือไม่ใช้มันล่ะ จะทำให้เราขับขี่ได้เร็วขึ้นจริงไหม? แล้วทำไมเราจะไปเลือกปิดเสียล่ะ ทั้งที่ Traction Control เป็นฟังก์ชั่นที่ช่วยเราในเรื่องของความปลอดภัย

ก่อนอื่นไปทำความรู้จัก Traction Control กันก่อน อุปกรณ์ที่ว่านี้คือ ระบบป้องกันการลื่นไถลของตัวรถ โดยมาก การลื่นไถล จะเกิดเมื่อ ขับขี่เข้าโค้งด้วยความเร็วที่มากเกินความสามารถของตัวรถ หรือเรียกง่ายๆว่า หลุดโค้ง หรือในบางกรณี ขับขี่บนพื้นถนนที่เปียกลื่นเช่น หิมะ น้ำขัง พื้นขัดมัน ที่ผิวสัมผัสมีความฝืดน้อย อย่างนี้ Traction Control จะเข้ามามีบทบาทในกรณีดังกล่าว

การทำงานของ Traction Control จะทำงานเมื่อ ถูกตรวจพบว่าในขณะขับขี่มีล้อที่หมุนสองข้างไม่เท่ากัน หรือขณะเข้าโค้งมีล้อข้างใดข้างหนึ่งหมุนฟรีมากเกินจนผู้ขับอาจสูญเสียการควบคุมรถได้ Traction Control จะเข้าไปทำงานทันที โดยระบบจะเข้าไปสั่งให้เพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกในล้อที่ตรวจพบว่าหมุนฟรีกว่าล้ออื่น เพื่อลดอาการการลื่นไถล เพื่อให้แรงเสียดทานระหว่างล้อกับถนนกลับมาเหมือนเดิม รวมทั้งระบบยังสั่งตัดกำลังของเครื่องยนต์ลงด้วย เพื่อให้ผู้ขับควบคุมรถได้ง่ายขึ้นแม้ว่าเท้ายังเหยียบคันเร่งอยู่ก็ตาม

สรุปแล้ว Traction Control จะเข้าไปช่วยสั่งระบบเบรก และสั่งลดการทำงานของเครื่องยนต์ลง ซึ่งรถยนต์ที่มีระบบนี้ ระบบจะถูกสั่งเปิดการใช้งานอยู่เสมอหลังจากการสตาร์ทเครื่องยนต์

 

แล้วทีนี้บางคนบอกว่า ถ้ากดปิดปุ่มนี้จะช่วยให้ขับรถได้เร็วขึ้นจริงไหม?

 

คำตอบก็คือ จริง ในกรณีที่คุณขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง คุณจะไปได้เร็วกว่าเมื่อระบบนี้เปิดใช้งานอยู่ เพราะกล่อง ECU จะไม่สั่งเบรก และไม่สั่งตัดการทำงานของเครื่องยนต์ เมื่อเซนเซอร์ตรวจพบอาการลื่นไถล ซึ่งตอนที่เครื่องยนต์ถูกตัดการทำงาน จะเสียเวลาไปบ้างกว่าจะเร่งเครื่องได้อีกครั้ง จึงเป็นเหตุผลว่า การปิด Traction Control จะขับได้เร็วกว่าเปิด Traction Control แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณต้องพร้อม และพอจะมีความเชียวชาญในเรื่องของทักษะการควบคุมรถที่มากพอตัวด้วย จึงจะรอดพ้นจากอุบัติเหตุไปได้

Comments are closed.