นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตแบบโตโยต้า เข้าติดตามผลการไคเซ็นธุรกิจด้วยตนเอง ณ บริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ธุรกิจชุมชนในโครงการฯ ปี 2561 เพื่อตรวจประเมินความพร้อมในการยกระดับเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” แห่งที่ 5 ศูนย์กลางการถ่ายทอดประสบการณ์การไคเซ็นธุรกิจประจำจังหวัดสงขลา ในวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2562 ณ บริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด อ. จะนะ จ. สงขลา
บริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด อ. จะนะ จ. สงขลา เป็นผู้ประกอบการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางพารา บริหารงานโดย คุณคุณัญญา แก้วหนู ด้วยแนวทางมุ่งเน้นการนำน้ำยางพารามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าแก่น้ำยางพาราของไทย เช่น หมอนยางพารา ถุงมือเคลือบยางสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ตลอดจนเป็นการสร้างอาชีพให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่น โดยบริษัทฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมการไคเซ็นธุรกิจภายใต้ โครงการ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ในปี พ.ศ. 2561 และได้นำองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าเข้าปรับปรุงการดำเนินงาน ในส่วนของธุรกิจการผลิตหมอนยางพารา ดังนี้
1. เพิ่มความสามารถในการผลิต โดยการปรับลดเวลาการผลิตต่อรอบ (Cycle time) :
ปรับปรุงมาตรฐานในกระบวนการตากหมอน อันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานที่สุด โดยเปลี่ยนวิธีการทำงานจากเดิมที่ปล่อยให้ผลิตภัณฑ์แห้งเองตามธรรมชาติ เป็นการออกแบบห้องตาก ชั้นวางหมอน และรูปแบบการจัดวาง พร้อมติดตั้งระบบถ่ายเทอากาศเพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้ดี ช่วยลดเวลาการตากหมอนลง จาก 21 วันต่อรอบ เหลือเพียง 7 วันต่อรอบ ส่งผลให้ความสามารถในการผลิตเพิ่มจาก 700 ใบต่อเดือน เป็นกว่า 1,300 ใบต่อเดือน เพิ่มรายได้ต่อเดือนจาก 400,000 บาทเป็นกว่า 750,000 บาท นอกจากนี้จากการที่เวลาผลิตต่อรอบทำได้เร็วขึ้น 3 เท่า ยังส่งผลให้ต้นทุนในกระบวนการ (Work in process) ลดลงจาก 420,000 บาท เหลือ 140,000 บาท รวมถึงมีการแนะนำให้ธุรกิจใช้ “ระบบการมองเห็น” (Visualization) ควบคุมการผลิต เพื่อให้สามารถติดตามสถานะการผลิตและการส่งมอบได้อย่างแม่นยำ
2. การบริหารต้นทุนวัตถุดิบและการลดของเสียในกระบวนการ :
2.1. สร้างมาตรฐานการใช้วัตถุดิบ : ก่อนการปรับปรุง ธุรกิจตรวจพบน้ำยางล้นออกนอกแม่พิมพ์ จึงปรับมาตรฐานการผลิตโดยกำหนดให้มีการฉีดน้ำยางลงแม่พิมพ์ครั้งละ 9.5 กิโลกรัม ช่วยลดปริมาณการสูญเสียวัตถุดิบลงประมาณ 1 กก. ต่อหมอนการผลิต 4 ใบ คิดเป็นการลดต้นทุนจากการสูญเสียลง 10 บาทต่อการผลิตหมอน 1 ใบ (รวม 12,000 บาทต่อเดือน) โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์
2.2. ปรับปรุงปัญหาคุณภาพสินค้า โดยก่อนการปรับปรุงธุรกิจตรวจพบปัญหามีหมอนที่ผ่านการอบแล้วมีขนาดไม่เต็มใบถึง 12% เนื่องจากเกิดช่องว่างในเนื้อหมอนภายหลังกระบวนการฉีดน้ำยางเข้าแม่พิมพ์ โตโยต้าจึงทำการไคเซ็นโดยการปรับการเคลื่อนไหวของพนักงาน ลดการก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของฝาแม่พิมพ์หลังฉีดน้ำยาง ส่งผลให้ภายหลังการปรับปรุง ตรวจพบสินค้ามีตำหนิไม่ถึง 5% ของการผลิต ช่วยลดมูลค่าการสูญเสียจากลดราคาสินค้ามีตำหนิจาก 33,600 บาทต่อเดือน เหลือ 14,000 บาทต่อเดือน
3. การปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง
ถ่ายทอดระบบ “การจัดการสินค้าคงคลังแบบโตโยต้า” โดยสอนให้ธุรกิจตรวจสอบมูลค่าสต๊อก จัดแยกประเภทสินค้าตามการเคลื่อนไหว อายุสินค้า เพื่อหาการจัดการลดสต๊อกอย่างเหมาะสม ช่วยลดเงินจมใน สต๊อกจาก 320,000 บาท เหลือ 260,000 บาท ตลอดจนมีการออกแบบแผนผังการจัดวางสินค้า ระบบสต๊อกการ์ด และ ระบบ FIFO เพื่อให้ธุรกิจสามารถบริหารคลังสินค้าได้อย่างมืออาชีพต่อไป
บริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด อ. จะนะ จ. สงขลา เป็น 1 ใน 3 ธุรกิจที่ผ่านการไคเซ็นธุรกิจภายใต้โครงการโตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ในระยะที่ 3 ที่สามารถนำหลักการไคเซ็นไปใช้ปรับปรุงธุรกิจได้ด้วยตนเอง ตลอดจนมีศักยภาพในการยกระดับการดำเนินงานให้เป็น “ศูนย์การเรียนรู้ โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ที่จะเปิดดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2562 โดยภายหลังการตรวจประเมินในครั้งนี้ โตโยต้าจะเข้าสนับสนุนการเตรียมความพร้อมของสถานที่และอุปกรณ์สื่อการสอน ตลอดจนการจัดอบรมเตรียมความพร้อมบุคลากร เพื่อให้ธุรกิจสามารถส่งมอบองค์ความรู้และประสบการณ์การไคเซ็นธุรกิจแก่ผู้เยี่ยมชมและธุรกิจที่มีความสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามแนวคิด “ปันความรู้ สู่สังคมไทยยั่งยืน” อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจฐานราก ให้เติบโตอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามแนวทางในการดำเนินธุรกิจของโตโยต้า ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งความสุขแก่สังคมไทย