เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดเผยโฉมครั้งแรกในวันนี้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 แคปติวา รุ่นใหม่จะพร้อมจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท รถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดในตลาด แคปติวา รุ่นใหม่ มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สไตล์โฉบเฉี่ยว และเทคโนโลยีอัจฉริยะเหมาะกับลูกค้าที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ในกลุ่มเอสยูวี-บีและกลุ่มเอสยูวี-ซี
แคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดครบครันความคุ้มค่าด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ การออกแบบภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยวมีสไตล์และ พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางโอ่โถง รถรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์ แคปติวา รุ่นใหม่ ถือเป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางที่สุดในตลาด มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิกซันรูฟและไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ ซึ่งเป็นเพียงคุณสมบัติเด่นบางอย่างเท่านั้นที่เผยให้ทราบกันในตอนนี้ รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่นี้ยังมีคุณสมบัติเด่นอื่นๆ อีกมากมาย
แคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดจะมาเสริมทัพและทำตลาดร่วมกับรถกระบะ โคโลราโด และรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ เทรลเบเซอร์ ที่ผลิตในประเทศไทย เนื่องจาก เชฟโรเลต ประเทศไทยวางแผนเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์และขยายการเติบโตทางธุรกิจด้วยการใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนารถอเนกประสงค์ที่มีมาอย่างยาวนาน ความร่วมมือกับหุ้นส่วนธุรกิจและความแข็งแกร่งในระดับโลกของจีเอ็ม
“การเปิดตัว แคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดนี้เพื่อกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์กลุ่ม เอสยูวี-บีและเอสยูวี-ซี ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยมและเติบโตอย่างรวดเร็ว” นางสาวปิยะนุช จตุรภัทร์ ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด เชฟโรเลต เซลล์ ประเทศไทย กล่าว “แคปติวา รุ่นใหม่ จะดึงดูดลูกค้ามากมายโดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์คันแรกที่มีสไตล์ที่ชัดเจน พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้งหมดรวมอยู่ในรถรุ่นนี้ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด”
การเปิดตัวแคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดไม่เพียงเป็นการกลับมาทำตลาดอีกครั้งของรถอเนกประสงค์เชฟโรเลตรุ่นที่ได้รับความนิยมในระดับโลก แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของเชฟโรเลตในการดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวให้แก่แบรนด์และธุรกิจในประเทศไทย โดยในปี 2561 ยอดจำหน่ายรถยนต์ของเชฟโรเลต ประเทศไทยเติบโตติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2559 บริษัทฯ มียอดจำหน่ายเติบโตขึ้นถึง 36 เปอร์เซ็นต์
“การเปิดตัวแคปติวา รุ่นใหม่นี้จะทำให้เราสามารถรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจเชฟโรเลต ประเทศไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และมุ่งมั่นสร้างยอดขายในปี 2562 ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 กลยุทธ์ของเราในการมุ่งตลาดรถกระบะและรถอเนกประสงค์นั้นทำให้เกิดผลลัพธ์
ที่ดีมากมาย และสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานของจีเอ็มในระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เชฟโรเลต ประเทศไทยกำลังดำเนินกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในประเทศด้วยการใช้ประโยชน์จากความร่วมมือกับหุ้นส่วนและการดำเนินงานในระดับโลกของจีเอ็ม โดยจะเริ่มจากแคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดรุ่นนี้” นางสาวปิยะนุช กล่าวเพิ่มเติม
“เป็นที่ทราบกันดีว่ารถอเนกประสงค์กำลังได้รับความนิยมและตลาดมีการเติบโตทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ที่ผ่านมาเราได้ทำการศึกษาตลาดและพบว่า กลุ่มลูกค้าผู้ซื้อรถอเนกประสงค์ในประเทศไทยให้ความสำคัญกับการออกแบบภายนอกและความกว้างขวางภายในห้องโดยสารซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อ มองดูที่ แคปติวา รุ่นใหม่คันนี้ ก็จะเห็นถึง สไตล์การออกแบบภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย”
“เราสามารถกล่าวได้ว่ารถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่กว้างขวางที่สุดในตลาดและสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการ โดยรถรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด “3S” คือ Space Style และ Smart Technology ที่มีในรถอเนกประสงค์ของเชฟโรเลตทุกรุ่น” นางสาวปิยะนุชกล่าวเพิ่มเติม
รถอเนกประสงค์ แคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุดได้รับการออกแบบและพัฒนาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตรถอเนกประสงค์มาอย่างยาวนานของจีเอ็มและเชฟโรเลต เชฟโรเลตเป็นแบรนด์ผู้บุกเบิกรถอเนกประสงค์ ในปี 2478 ด้วยการเปิดตัวซับเบอร์แบน แคร์รี่ออล รถยนต์ขนาด 8 ที่นั่ง และเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่อีกมากมายรวมถึงเทรลเบลเซอร์ตลอด 8 ทศวรรษที่ผ่านมา
บูธของเชฟโรเลตภายในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้มีการเฉลิมฉลองตำนานแห่งความสำเร็จและความเชี่ยวชาญในการออกแบบและผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์ของเชฟโรเลต รวมทั้งมีการจัดแสดงรถยนต์เชฟโรเลตที่มีการตกแต่งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่ท่องเที่ยวและทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์ พายเรือคายัก ปั่นจักรยาน และการขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อการผจญภัย
นอกจากนี้ ภายในบูธของเชฟโรเลตยังมีจออินเตอร์แอคทีฟที่จะพาทุกท่านย้อนเวลาไปยังต้นกำเนิดและรับชมประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 8 ทศวรรษของรถอเนกประสงค์เชฟโรเลตและ 100 ปีแห่งความสำเร็จของรถกระบะเชฟโรเลต พร้อมสัมผัสการทำงานของเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่มีอยู่ในรถกระบะ โคโลราโด และรถอเนกประสงค์ เทรลเบลเซอร์ ผ่านหน้าจอดังกล่าว ทั้งนี้ลูกค้าและผู้เข้าชมบูธเชฟโรเลตสามารถสแกนคิวอาร์โค๊ดเพื่อรับชมตำนานของรถอเนกประสงค์เชฟโรเลต และเทคโนโลยียานยนต์อื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกช่องทางหนึ่ง
นอกจากดาวเด่นของบูธเชฟโรเลตที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์อย่างแคปติวา รุ่นใหม่ล่าสุด เชฟโรเลตยังแสดงรถยนต์รุ่นหลักๆ ที่ผลิตในประเทศไทยและเป็นรากฐานความแข็งแกร่งของธุรกิจเชฟโรเลต ในประเทศไทย อย่างโคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ ซึ่งขณะนี้เชฟโรเลตกำลังมีข้อเสนอพิเศษเชฟโรเลต ซูเปอร์ ดีล ให้กับรถยนต์รุ่นดังกล่าว ผู้สนใจสามารถชมรถและติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บูธเชฟโรเลตภายในงานมอเตอร์โชว์ ที่ผู้จัดจำหน่ายเชฟโรเลตทั่วประเทศไทยจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้
ภายในงานมอเตอร์โชว์ประจำปีนี้ ลูกค้าสามารถทดลองนั่งรถยนต์เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์และโคโลราโดภายในสนามทดสอบการขับขี่แบบออฟโรดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อสัมผัสเทคโนโลยีทีล้ำสมัย ความแข็งแกร่งระดับตำนาน และสมรรถนะการขับขี่ที่น่าประทับใจของรถยนต์เชฟโรเลต
ลูกค้าเชฟโรเลตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากโปรแกรมเชฟโรเลต คอมพลีต แคร์ ซึ่งครอบคุลมการบริการหลังการขายต่างๆ ได้แก่ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. (Roadside Assistance) การรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 100,000 กม. ศูนย์บริการเคลื่อนที่ เชฟโรเลต โมบาย เซอร์วิส (Mobile Service) ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์เชฟโรเลต 1734 และสิทธิพิเศษต่างๆ ของเชฟวี่ พลัส (Chevy Plus) ให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกโดยจะได้รับข้อเสนอพิเศษต่างๆ จากพันธมิตรทางธุรกิจของเรา
พบกับเชฟโรเลตได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ที่ บูธ A12 อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายน เวลา 11.00 น. ถึง 23.00 น.